xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายหนุนกองทัพพม่าจัดชุมนุมใหญ่ฉลองรัฐประหารกลางเนปีดอ ฝ่ายต้านหันพึ่งเฟซบุ๊กแม้ถูกรัฐกั้นสัญญาณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - นายพลของพม่าสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจำกัดการเข้าถึงเฟซบุ๊กวันนี้ (4) ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า โลกต้องร่วมกันกดดันให้การรัฐประหารของกองทัพพม่าล้มเหลว

ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้กลับเข้าสู่การปกครองของทหารโดยตรงอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ (1) หลังจากนางอองซานซูจี ผู้นำโดยพฤตินัย และผู้นำพลเรือนคนอื่นๆ ถูกควบคุมตัวในการบุกจับกุมยึดอำนาจตั้งแต่เช้ามืด ยุติการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย

การรัฐประหารเรียกเสียงประณามจากนานาประเทศ และก่อให้เกิดความวิตกว่ากองทัพจะพาประชากร 54 ล้านคน กลับไปสู่การปกครองของรัฐบาลทหารที่เปลี่ยนพม่าให้กลายเป็นประเทศที่กดขี่ปราบปรามและยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย

ในการยึดอำนาจครั้งนี้ ยังไม่มีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของผู้คนจำนวนมากปรากฏให้เห็น เนื่องจากทหารได้กระจายกำลังอยู่ตามท้องถนนของเมืองใหญ่ต่างๆ

แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้สนับสนุนกองทัพหลายร้อยคนจัดการชุมนุมกันที่กรุงเนปีดอ เมืองหลวงของประเทศวันนี้ (4) เพื่อสนับสนุนการรัฐประหาร โดยโบกธงสีแดงของกองทัพ

ผู้ชุมนุมบางคนถือป้ายที่มีข้อความระบุว่า “ไม่ต้องการคนทรยศชาติที่พึ่งพาต่างชาติ” และ “กองทัพที่รักประชาชน...ขอให้ประสบความสำเร็จ”

ในอีกด้านหนึ่ง ยังมีประชาชนอีกกลุ่มหลั่งไหลไปรวมตัวกันในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสียงคัดค้านและแบ่งปันแผนการทำอารยะขัดขืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเฟซบุ๊ก

“เรามีพลังดิจิทัล เราใช้สิ่งนี้ตั้งแต่วันแรกเพื่อคัดค้านรัฐบาลทหาร” นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง “ขบวนการอารยะขัดขืน” ที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย กล่าว

เทเลนอร์ (Telenor) หนึ่งในผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักของประเทศ ยืนยันวันนี้ (4) ว่าเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้บริษัทบล็อกการเข้าถึงเฟซบุ๊กชั่วคราว

บริษัทสัญชาตินอร์เวย์รายนี้กล่าวว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่ไม่เชื่อว่าคำร้องขอนั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความเหมาะสมตามกฎหมายสิทธิมนุษชนระหว่างประเทศ

ด้านเฟซบุ๊กได้ยืนยันว่ามีบางคนถูกขัดขวางการเข้าถึง และเรียกร้องให้ทางการกู้คืนการเชื่อมต่อ


NetBlocks กลุ่มสังเกตการณ์เครือข่ายสังคมออนไลน์ กล่าวว่า การขัดขวางการเข้าถึงยังส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันที่เฟซบุ๊กเป็นเจ้าของด้วย เช่น Instagram และ WhatsApp

สำหรับหลายๆ คนในพม่า เฟซบุ๊กถือเป็นประตูสู่อินเทอร์เน็ตและเป็นช่องทางสำคัญในการรวบรวมข้อมูล

“อย่างแรกที่เราดูในทุกเช้าคือโทรศัพท์ของเรา และสิ่งสุดท้ายที่เราดูในตอนกลางคืนก็คือโทรศัพท์ของเรา” ผู้ประกอบการอายุ 32 ปี ที่คัดค้านการรัฐประหาร กล่าวกับเอเอฟพี

และในวันนี้ (4) มีการชุมนุมเล็กๆ เกิดขึ้นที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์มัณฑะเลย์ โดยผู้ชุมนุมประท้วงถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “การประท้วงของประชาชนต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพ” ที่ในเวลาต่อมาสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวผู้ชุมนุม 4 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันจากทางการ

ขณะเดียวกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 70 คน จากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี ได้ลงนามในคำมั่นที่จะรับใช้ประชาชน ในขณะที่จัดการประชุมรัฐสภาเชิงสัญลักษณ์ของตัวเองในกรุงเนปีดอ ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น

การทำรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ทำให้ประชาคมระหว่างโลกพยายามหาทางตอบโต้ และเมื่อวันพุธ (3) เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า เขาจะกดดันบรรดานายพลให้เปลี่ยนท่าที

“เราจะทำทุกวิถีทางที่เราสามารถทำได้เพื่อผนึกกำลังผู้เล่นสำคัญๆ และประชาคมโลก สร้างแรงกดดันต่อพม่าให้มากพอที่จะทำให้การรัฐประหารครั้งนี้ล้มเหลว มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ที่จะเปลี่ยนผลการเลือกตั้งและเจตจำนงของประชาชน” กูเตอร์เรส กล่าวกับวอชิงตันโพสต์

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ให้เหตุผลในการทำรัฐประหารว่าเป็นเพราะมีการโกงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้ง พรรคของซูจีชนะคะแนนเสียงไปอย่างถล่มทลาย ขณะที่พรรคการเมืองที่ทหารให้การสนับสนุนได้รับความพ่ายแพ้ ผู้สังเกตการณ์ท้องถิ่นและต่างชาติ รวมถึงหน่วยงานตรวจสอบการเลือกตั้งของพม่าเองยังรายงานว่าไม่พบประเด็นปัญหาสำคัญใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของการเลือกตั้ง

รัฐธรรมนูญยุครัฐบาลทหารของพม่าได้รับประกันว่ากองทัพจะยังมีอิทธิพลมาก ทั้งการสงวนที่นั่ง 1 ใน 4 ของที่นั่งทั้งหมดในรัฐสภา และการควบคุมกระทรวงสำคัญ

เมื่อวันพุธ (3) ทางการได้ตั้งข้อหาที่คลุมเครือกับซูจีเพื่อสร้างความชอบธรรมในการควบคุมตัวซูจีได้ต่อไป โดยตามข้อมูลของพรรค ซูจีถูกตั้งข้อหาจากความผิดภายใต้กฎหมายนำเข้าและส่งออกของพม่า หลังเจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสารวอล์กกี้-ทอล์คกี้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนในบ้านพักของเธอ ซึ่งสหรัฐฯ และอังกฤษ ต่างประณามข้อหาดังกล่าว และเรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจีทันที.










กำลังโหลดความคิดเห็น