เวียดนามยกผลงานคุมโควิด-เศรษฐกิจขยายตัวเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่

รอยเตอร์ - เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม กล่าวยกย่องการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง และการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในวันนี้ (26) ขณะเป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคในกรุงฮานอย

ในการประชุมนาน 9 วัน ที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังประตูที่ปิดสนิท คณะผู้แทนจะเลือกทีมผู้นำชุดใหม่ ด้วยเป้าหมายที่จะส่งเสริมความสำเร็จทางเศรษฐกิจของประเทศ และความชอบธรรมในการปกครองของพรรค ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคที่เกิดขึ้นทุกๆ 5 ปี

“ประเทศของเราพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน รวบรวมความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรค รัฐ และระบอบสังคมนิยม” เหวียน ฝู จ่อง กล่าวสะท้อนความสำเร็จของพรรคตั้งแต่ปี 2559

“คุณภาพการเติบโตที่ดีขึ้น เศรษฐกิจมั่นคง อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม” เหวียน ฝู จ่อง กล่าวสุนทรพจน์นาน 75 นาที ต่อผู้แทน 1,600 คนจากทั่วประเทศ

เหวียน ฝู จ่อง เผชิญกับปัญหาสุขภาพในช่วง 2-3 ปีมานี้ ตามที่ผู้สังเกตการณ์คาดการณ์ หากเขายังคงทำหน้าที่เลขาธิการใหญ่พรรค เขาจะกลายเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ เล สวน (Le Duan) เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ที่เข้าควบคุมและปกครองประเทศด้วยกำปั้นเหล็กหลังการเสียชีวิตของโฮจิมินห์

ผลงานที่ปรากฏในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่เหวียน ฝู จ่อง เป็นผู้นำการปราบปรามดังกล่าว จ่องกล่าวว่า การตรวจพบ สอบสวน และดำเนินคดีกับคดีทุจริตคอร์รัปชัน กระตุ้นให้ประชาชนสนับสนุนการปราบปราม และทำให้การทุจริตคอร์รัปชันค่อยๆ ถูกยับยั้งและป้องกัน

แต่ฝ่ายนักวิจารณ์รัฐบาลระบุว่า การปราบปรามมีแรงจูงใจทางการเมือง

ในช่วงหลายเดือนก่อนการประชุม มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลของประเทศที่มีอยู่จำกัด และ 4 เสาหลักที่เป็นผู้นำของประเทศอย่างเป็นทางการ คือ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา

การรักษาความปลอดภัยยังที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชั้นของประเทศเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการรบกวนหรือตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั้งในและรอบสถานที่จัดการประชุม และไม่อนุญาตให้ใช้งานอุปกรณ์ไร้สาย นอกจากแล็บท็อป

นอกจากนี้ ยังมีการบังคับใช้มาตรการด้านสุขภาพอย่างเข้มงวด โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 10,000 คน ก่อนการประชุม

ในช่วงปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเวียดนามล้ำหน้ากว่าหลายประเทศในเอเชีย และยังสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ที่เป็นผลจากมาตรการการกักตัว ตรวจหาเชื้อ และการติดตามอย่างเข้มงวด โดยปัจจุบัน เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมราว 1,500 คน และมีผู้เสียชีวิต 35 คน ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่นๆ

และเมื่อกล่าวถึงการแพร่ระบาด เหวียน ฝู จ่อง กล่าวว่า “ในบริบทของการวิวัฒนาการของโลกที่ซับซ้อนและรวดเร็ว เราต้องมุ่งเน้นไปที่การเสริมความมั่นคงและการป้องกันประเทศร่วมกัน”

เวียดนาม หนึ่งใน 5 ประเทศสุดท้ายที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 7% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

แม้ในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัวที่ 2.9% ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเผชิญกับการระบาดของโรค จ่องยอมรับว่ายังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไขเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต

“ประเทศของเรายังคงเผชิญกับความยากลำบาก ความท้าทาย และข้อบกพร่องอีกหลายประการ เศรษฐกิจยังไม่ยืดหยุ่นและพึ่งพาตนเองได้มากพอ ประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังอยู่ในระดับต่ำ และการเติบโตของภาคเอกชนและการลงทุนจากต่างประเทศยังไม่ยั่งยืน” เลขาธิการใหญ่พรรค กล่าวถึงช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า และถัดจากนั้น

แม้จะไม่ได้ระบุชื่อในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ แต่เหวียน ฝู จ่อง ได้กล่าวถึงความตึงเครียดกับจีนเกี่ยวกับท่าทีแข็งกร้าวที่เพิ่มขึ้นในระยะหลังในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ ที่ทับซ้อนกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม

“เวียดนามมุ่งมั่นและแน่วแน่ที่จะปกป้องเอกราชและอธิปไตย จัดการความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่และประเทศเพื่อนบ้านอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ” จ่อง กล่าวทิ้งท้าย.