เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนประกาศวันนี้ (29) ว่า กัมพูชาผลิตน้ำมันดิบหยดแรกจากน่านน้ำของตนเองได้แล้ว ความสำเร็จที่เฝ้ารอมายาวนานสำหรับประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทเชฟรอนเป็นผู้ค้นพบบ่อน้ำมันนอกชายฝั่งกัมพูชาในบริเวณอ่าวไทยเมื่อปี 2548 แต่การผลิตต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการแบ่งปันรายได้ ทำให้บริษัทขายหุ้นให้แก่บริษัทคริสเอเนอร์จีของสิงคโปร์ ในปี 2557
ฮุนเซนกล่าวยกย่องการผลิตน้ำมันดิบครั้งแรกนี้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหม่สำหรับเศรษฐกิจของกัมพูชา
“น้ำมันดิบหยดแรกถูกผลิตออกมาแล้ว” ฮุนเซน กล่าว
“ปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง และเราได้รับของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศของเรา นั่นคือการผลิตน้ำมันครั้งแรกในดินแดนของเรา” ผู้นำเขมรโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก
น้ำมันดิบถูกนำขึ้นมาจากพื้นที่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของสีหนุวิลล์
การค้นพบแหล่งน้ำมันดิบของเชฟรอน ทำให้กัมพูชาหวังที่จะเป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายถัดไปของภูมิภาค โดยรัฐบาลประเมินว่ามีน้ำมันดิบหลายร้อยล้านบาร์เรลอยู่ใต้น่านน้ำของตัวเอง
ปัจจุบัน บริษัทคริสเอเนอร์จี ถือหุ้น 95% ในบ่อน้ำมันนี้ ขณะที่รัฐบาลถือหุ้นส่วนที่เหลือ
เคลวิน ตัง ซีอีโอฝ่ายปฏิบัติการในกัมพูชาของบริษัทคริสเอเนอร์จี กล่าวว่า เป็นงานที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการเริ่มการผลิตในช่วงที่มีการระบาดทั่วโลก
“การขนส่งบุคลากรและอุปกรณ์ข้ามพรมแดน เพื่อดำเนินการโครงการนี้อย่างปลอดภัยในช่วงเวลาที่โควิด-19 ระบาด จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล” เคลวิน ตัง กล่าว
บริษัทประเมินว่าอัตราการผลิตสูงสุดจะอยู่ที่ 7,500 บาร์เรลต่อวัน เมื่อโครงการขุดเจาะเสร็จสิ้นในเดือน ก.พ.2564
และจากการประเมินในปี 2560 รัฐบาลกัมพูชาจะมีรายได้จากเฟสแรกของโครงการอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์จากค่าสัมปทานและภาษี
อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้ยังก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่ากัมพูชา ประเทศที่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใสจะใช้ความมั่งคั่งใหม่นี้อย่างไร แต่ฮุนเซนไม่สนใจข้อวิตกเหล่านั้น และเรียกการขุดน้ำมันดิบนี้ว่าเป็นพรสำหรับชาวกัมพูชา
“มันไม่ใช่คำสาปอย่างที่คนไม่หวังดีบางคนพูดกัน” ฮุนเซน กล่าว.