MGR Online - สถานการณ์ขาดแคลนหมอ-พยาบาลในพม่าเข้าขั้นวิกฤต ไม่เฉพาะในย่างกุ้ง แต่กำลังลามไปทั่วประเทศ นอกจากกำลังคนไม่พอแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนกลับเป็นผู้ป่วยเสียเอง
การประชุมทางออนไลน์ภายในคณะกรรมการโควิด-19 กรุงย่างกุ้ง เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม ช่วงหนึ่งของการประชุม ดร.มยิ่น ทวย รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา พม่า บอกว่า กำลังพิจารณาที่จะให้ผู้ป่วยซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังไม่แสดงอาการ กักตัวและรับการรักษาอยู่ในบ้านของตนเอง แทนที่จะมารับการรักษาในโรงพยาบาล
ดร.มยิ่น ทวย ให้เหตุผลว่าแนวคิดนี้เพื่อต้องการลดภาระของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งกำลังรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากและมีเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา อยู่ระหว่างการกำหนดเงื่อนไขโดยละเอียดว่าผู้ป่วยรายใดควรถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน และรายใดต้องมารับการรักษาในโรงพยาบาล
ขณะนี้ทั่วพม่ากำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อย่างหนัก ขณะที่ยังคงตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มวันละมากกว่า 1,000 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงย่างกุ้ง
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ดร.ทูนมิ่น รองอธิบดีกรมการแพทย์และสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์กับ MRTV สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลว่า มีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกรุงย่างกุ้ง ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมากกว่า 500 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 2 คน
การขาดแคลนแพทย์ พยาบาลในย่างกุ้ง ทำให้ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์จากพื้นที่รอบนอก ไม่ว่าจะเป็นภาคหรือรัฐชาติพันธุ์ทุกแห่ง ให้ส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระการต่อสู้กับโควิดในกรุงย่างกุ้ง
ซึ่งเมื่อถึงมาถึงในตอนนี้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ถูกส่งเข้ามาช่วยในส่วนกลางได้กลายเป็นภาระที่กลับไปเพิ่มแก่ท้องถิ่น เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดเมื่อกลับไปถึงบ้าน และกลายเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยในท้องที่บ้านเกิดของตนเอง
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม หนังสือพิมพ์ Myanmar Times รายงานการให้สัมภาษณ์ อู ติน ยุ่น หัวหน้ากองกาชาด ประจำจังหวัดมินบู ภาคมะกวย ว่า อาสาสมัครกาชาด 18 คน จากมินบู ถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 หลังมาช่วยงานในกรุงย่างกุ้งแล้วกลับไปถึงบ้าน
ภาคมะกวยส่งเจ้าหน้าที่กาชาด 39 คน เข้ามาช่วยงานในศูนย์รักษาผู้ป่วยโควิดหมายเลข 1 ในเขตไหล่ตะยา กรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 7 ธันวาคม แต่ 1 ในนั้นถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 จึงต้องอยู่รักษาตัวในศูนย์รักษาโควิดในไหล่ตะยาต่อไปก่อน
อีก 38 คน เมื่อกลับไปถึงภาคมะกวย ได้ถูกกักตัวไว้ที่ศูนย์เฝ้าดูอาการ ในมหาวิทยาลัยคอมพิวเตอร์มะกวย ผลตรวจออกเชื้อออกมาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พบว่า 18 คนในนี้ ซึ่งมาจากมินบู ติดโควิด-19
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม สำนักข่าว Shan News รายงานว่า พยาบาล 6 คน ซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเจ้าจ๋ามทุน เมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐชาน ถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19
พยาบาลทั้ง 6 เป็นอาสาสมัครชุดที่ 3 จากรัฐชาน ที่เข้าไปช่วยรับภาระต่อสู้กับโควิด-19 ในกรุงย่างกุ้ง และเพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมืองตองจี ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 3 และ 4 ธันวาคม
รัฐชานส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลเข้าไปช่วยงานในกรุงย่างกุ้งแล้ว 3 ชุด จำนวนกว่า 150 คน โดยชุดที่ 3 ซึ่งเพิ่งกลับมาเมื่อต้นเดือนธันวาคม มีทั้งสิ้น 41 คน
ยังมีอีกหลายรัฐและหลายภาคที่ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาช่วยงานในย่างกุ้ง แล้วติดโควิดเมื่อกลับไปถึงบ้าน แต่ไม่มีการเผยแพร่ออกมาเป็นข่าว
นอกจากแพทย์และพยาบาลแล้ว บุคลากรการแพทย์ด้านอื่นก็อยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างหนัก โดยเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ดร.โม ทูน หัวหน้าแผนกสาธารณสุข ในเมืองตองจี ให้สัมภาษณ์กับ Shan News ว่า นอกจากโรงพยาบาลแล้ว ในตองจียังมีสถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการอีก 13 แห่ง มีผู้ถูกกักตัวอยู่กว่า 650 คน
ระหว่างถูกกักตัว ต้องมีการเก็บตัวอย่างจากคนเหล่านี้ส่งเข้าไปตรวจยังห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 2 ครั้ง คือในวันที่ 3 และวันที่ 11 ของการกักตัว แต่มีเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบกระบวนการเหล่านี้อยู่เพียง 8 คนเท่านั้น
วันที่ 17 ธันวาคม กระทรวงสาธารณสุขและกีฬา รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบทั่วพม่าเพิ่มขึ้น 1,182 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 31 ราย และมีผู้รักษาหายเพิ่มขึ้น 1,084 คน
ยอดผู้ป่วยสะสมของพม่านับแต่เริ่มการระบาดเมื่อเดือนมีนาคมจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม มี 113,082 คน เสียชีวิตรวม 2,377 ราย รักษาหายแล้ว 91,537 คน คงเหลือผู้ป่วยที่กำลังรับการรักษาอยู่ 19,168 คน
ย่างกุ้งมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 77,719 คน รองลงมาเป็นมัณฑะเลย์ 10,539 คน อันดับสามพะโค 6,645 คน ส่วนมะกวยอยู่อันดับ 6 มีผู้ป่วยสะสม 2,254 คน
ผู้ป่วยสะสมในรัฐและภาคที่มีพื้นที่ติดกับไทย รัฐมอญมากที่สุด 1,998 คน รองลงมาเป็นรัฐกะเหรี่ยง 898 คน อันดับ 3 รัฐชาน 652 คน อันดับ 4 ภาคตะนาวศรี 483 คน และสุดท้ายรัฐกะยา 32 คน.
(ภาพประกอบ ที่มาจากกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา)