รอยเตอร์ - ภัยพิบัติทางธรรมชาติในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เวียดนามได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 30 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์) และทำให้มีผู้เสียชีวิต 192 คน สูญหาย 57 คน ตามการเปิดเผยของทางการในวันนี้ (2) โดยจังหวัดทางตอนกลางของประเทศเป็นพื้นที่ที่เผชิญความสูญเสียมากที่สุด
ภาคกลางของเวียดนามเผชิญกับปีที่ยากลำบาก ด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาเป็นระยะเวลานานก่อนที่พายุ 9 ลูก จะเข้าพัดถล่มซ้ำทำลายพืชไร่และบ้านเรือนประชาชนหลายแสนคน
ยอดผู้เสียชีวิตในช่วง 2 เดือน สูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตตลอดทั้งปีของปีที่ผ่านมา ที่ภัยพิบัติทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ 132 คน และสร้างความเสียหายที่ 6.2 ล้านล้านด่งเท่านั้น ข้อมูลของทางการระบุ
“เราเผชิญกับไต้ฝุ่น 9 ลูก และพายุดีเปรสชัน 2 ลูกในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. จนถึงกลางเดือน พ.ย. เหตุการณ์สภาพอากาศที่ผิดปกติเหล่านี้ทำให้ประเทศเราได้รับความเสียหายถึง 30 ล้านล้านด่ง” รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท กล่าว
“เราต้องทำให้แน่ใจว่าประชาชนของเราจะไม่ไร้บ้าน ไม่ทุกข์ทรมานจากความอดอยากหรือขาดแคลนน้ำจืดหลังเกิดพายุ” รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าว
การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามคาดว่าจะชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 2-3 ในปีนี้ หลังขยายตัวถึงร้อยละ 7.02 ในปี 2562 เนื่องจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ด้วยภูมิประเทศที่มีแนวชายฝั่งทอดยาวทำให้เวียดนามมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับพายุรุนแรงและน้ำท่วม ในเดือน ต.ค. ธนาคารโลกออกรายงานระบุว่า ประชาชนราว 11.8 ล้านคนในจังหวัดทางชายฝั่งของเวียดนามจะเผชิญกับภัยคุกคามจากน้ำท่วมรุนแรง เนื่องจาก 35% ของการตั้งถิ่นฐาน ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่แออัดและถูกน้ำกัดเซาะ.