MGR ออนไลน์ - โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้หารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันขณะเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน ที่เริ่มต้นการเยือนตั้งแต่วันศุกร์ (20)
ฝ่าม บิ่ง มีง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนามได้พบหารือกับโอไบรอันในวันเสาร์ (21) โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ไม่เคยมาถึงจุดสูงสุดเช่นนี้มาก่อน กระทรวงการต่างประเทศระบุในคำแถลง
ในด้านความมั่นคงและการป้องกัน ฝ่าม บิ่ง มีง ยกย่องความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย รวมถึงการรักษากลไกการเจรจาทวิภาคีและการส่งเสริมความร่วมมือในการค้นหาและช่วยเหลือ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศบริจาคเงินจำนวน 2.1 ล้านดอลลาร์เพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วมในภาคกลาง
สองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่ให้ความสำคัญกับการฟื้นการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนปกติ เสริมสร้างความร่วมมือด้านมนุษยธรรม และความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนทวิภาคีบนพื้นฐานของประโยชน์ร่วมกัน
ในวันเดียวกัน โอไบรอันยังได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะโดยหารือเกี่ยวกับการต่อสู้กับอาชญกรรมข้ามชาติและการเพิ่มความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงต่างๆ
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเวียดนามที่ได้พบหารือกับโอไบรอันเช่นเดียวกันนั้น ได้กล่าวว่าการเยือนของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เวียดนามและสหรัฐฯ ฉลองครบรอบ 25 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเขาได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำเร็จในโครงการความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย เช่น การดำเนินการโครงการกำจัดสารไดออกซินที่สนามบินเบียนฮวา ซึ่งเป็นจุดปนเปื้อนสารพิษมากที่สุดในประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยยามฝั่งเวียดนาม
โอโบรอัน กล่าวว่า สหรัฐฯ จะยังช่วยเหลือเวียดนามเอาชนะผลของสงครามที่เป็นความสำคัญลำดับต้นของความร่วมมือด้านการป้องกันทวิภาคี และยังกล่าวขอบคุณฝ่ายเวียดนามสำหรับความพยายามในการช่วยหลือค้นหาศพของทหารสหรัฐฯ ที่รายงานว่าสูญหายระหว่างปฏิบัติการ
ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามได้ช่วยค้นหาศพทหารอเมริกัน 770 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสงครามเวียดนาม และยังมีชาวอเมริกันอีกราว 1,200 คน ที่ยังคงสูญหายในเวียดนามนับตั้งแต่ความขัดแย้งยุติลง
นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก กล่าวชื่นชมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและทันเวลาระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม ในการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สองฝ่ายตกลงว่าสองประเทศจะยังคงร่วมมือในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญอยู่.