รอยเตอร์ - เหตุดินถล่มที่เหมืองหยกในพื้นที่ตอนเหนือของพม่า คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 100 ราย และคาดว่ายังมีผู้เสียชีวิตอีกมาก ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่วันนี้ (2) หลังกองเศษดินหินจากการทำเหมืองถล่มร่วงลงสู่ทะเลสาบเบื้องล่าง จนทำให้เกิดคลื่นน้ำและโคลนซัดท่วมฝังคนงานจำนวนมาก
เหล่าคนงานกำลังหาเศษหยกในพื้นที่เมืองผากัน รัฐกะฉิ่น ขณะคลื่นโคลนซัดเข้าใส่พวกเขา หลังจากฝนตกหนัก หน่วยดับเพลิงระบุในหน้าเพจเฟซบุ๊ก
“ตอนนี้เราพบศพแล้วมากกว่า 100 ศพ ยังมีอีกหลายศพอยู่ในโคลน จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” ตา ลิน หม่อง เจ้าหน้าที่กระทรวงข้อมูลข่าวสาร กล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์
เหตุดินถล่มและอุบัติเหตุต่างๆ เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในเหมืองเมืองผากัน ในช่วงหลายปีมานี้ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในพื้นที่โดยหลายคนเป็นคนที่เข้ามาขุดค้นหาเศษหยกที่อาจหลงเหลือจากการทำเหมืองของผู้ประกอบการรายใหญ่
หม่อง ข่าย คนงานเหมืองอายุ 38 ปี ที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เขามองเห็นกองดินสูงทำท่าจะถล่ม และพอกำลังจะถ่ายรูป ผู้คนก็เริ่มร้องตะโกนว่า “วิ่ง วิ่ง!”
“ไม่ถึงนาที คนที่อยู่ด้านล่าง (ของเนินเขา) ก็หายไปหมด มีคนติดอยู่ในโคลนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้” หม่อง ข่าย กล่าว
รัฐบาลของนางอองซานซูจีได้ให้คำมั่นที่จะสะสางอุตสาหกรรมนี้เมื่อเข้าบริหารประเทศในปี 2559 แต่นักเคลื่อนไหวกล่าวว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ยอดจำหน่ายหยกอย่างเป็นทางการในพม่ามีมูลค่าอยู่ที่ 671 ล้านยูโร ในระหว่างปี 2559-2560 ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มเพื่อความโปร่งใสในอุตสาหกรรมสกัดทรัพยากรธรรมชาติ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามูลค่าที่แท้จริงของอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ส่งออกไปจีนนั้นมีมูลค่าสูงกว่านี้มาก.