เอพี/เอเอฟพี - ผู้นำชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังร่วมการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันนี้ (26) ผ่านระบบออนไลน์เพื่อแสดงถึงความเป็นเอกภาพ โดยหารือเกี่ยวกับกองทุนฉุกเฉินระดับภูมิภาคเพื่อรับมือกับวิกฤตที่เป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่อยู่ในความสนใจ
ผู้นำชาติสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมการประชุมผ่านทางออนไลน์เนื่องจากข้อจำกัดการเดินทางในภูมิภาค และความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้การประชุมหลายสิบนัดต้องล่าช้า พิธีการต่างๆ ถูกงด รวมถึงการถ่ายภาพร่วมกันของบรรดาผู้นำชาติสมาชิกที่เป็นสัญลักษณ์การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเป็นประจำทุกปี
เวียดนาม ประธานอาเซียนในปัจจุบัน ได้วางแผนที่จะจัดการประชุมแบบตัวต่อตัว แต่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่ประเมินว่ายังเสี่ยงเกินไปสำหรับการเดินทาง อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงจัดพิธีเปิดที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งร้องและเต้นในกรุงฮานอย โดยมีเจ้าหน้าที่ชาวเวียดนามและนักการทูตต่างชาติเข้าร่วมราว 200 คน ขณะที่ผู้นำชาติต่างๆ รับชมพิธีเปิดผ่านทางหน้าจอ
“การระบาดของโควิด-19 เป็นบททดสอบสำหรับอาเซียน” นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม กล่าว
ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แตกต่างกันไป เช่น อินโดนีเซีย มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 50,000 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,600 คน ส่วนลาว มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อเพียง 19 คนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคที่มีความแตกต่างหลากหลายนี้เป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชีย ด้วยมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรวมกันทั้งหมดมากกว่า 138,000 คน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนที่เป็นจุดเริ่มของการระบาด
ทั้งนี้ ประเด็นที่อาเซียนต้องมุ่งให้ความสำคัญในทันทีคือ ความเสียหายจากโควิด-19 ซึ่งทำลายเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเช่นไทยและเวียดนาม
“การระบาดของโรคกวาดความสำเร็จในช่วงหลายปีมานี้เลือนหายไป และคุกคามชีวิตผู้คนหลายล้านคน” นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก กล่าวในพิธีเปิด
ผู้นำเวียดนามยังเน้นย้ำถึง “ผลกระทบร้ายแรง” ของการระบาดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในหมู่สมาชิกอาเซียน
ลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบัน ยืนยันถึงภาพเศรษฐกิจที่ดูสิ้นหวัง และเตือนว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคคาดว่าจะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้อาจจะได้เห็นความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าที่ชื่อว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่จีนกำลังผลักดัน
“เราตระหนักถึงความเสียหายและความท้าทายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนต่อภูมิภาคและโลกจากการระบาดของโรคโควิด-19 แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามนโยบายเป้าหมายเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าอาเซียนนั้นเป็นแนวหน้าของการต่อสู้สำคัญนี้” เวียดนามกล่าวในนามของชาติสมาชิกอาเซียนในร่างแถลงการณ์ที่จะออกหลังการประชุมสุดยอดวันนี้
สำหรับโครงการที่มีความสำคัญมากอีกโครงการ คือ การจัดตั้งกองทุนรับมือโควิด-19 ของอาเซียน ที่จะถูกนำมาใช้ช่วยเหลือชาติสมาชิกจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และชุดป้องกัน โดยไทยได้ให้คำมั่นที่จะร่วมบริจาคเงิน จำนวน 100,000 ดอลลาร์ ส่วนประเทศคู่เจรจาของอาเซียนเช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คาดว่าจะประกาศความช่วยเหลือหลังเงื่อนไขของกองทุนครบถ้วนสมบูรณ์ นักการทูตอาวุโสรายหนึ่งเผยกับเอพี นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเรื่องคลังเวชภัณฑ์ในระดับภูมิภาค โดยกลุ่มจะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์อาเซียนเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
ในร่างแถลงการณ์ ผู้นำอาเซียนยังระบุถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับ “การถมทะล การพัฒนาล่าสุด และเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ” ในทะเลจีนใต้
“เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ใช้กำลังทหารและการข่มใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยผู้อ้างสิทธิและรัฐอื่นๆ ทั้งหมด ที่อาจทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตึงเครียดและซับซ้อนยิ่งขึ้น” ร่างแถลงการณ์ของอาเซียนระบุ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปักกิ่งได้เพิ่มการอ้างสิทธิเหรือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ด้วยการสร้างเกาะเทียม และในเดือน เม.ย. จีนได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการกับเกาะและลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบต่างๆ ในน่านน้ำพิพาทรวม 80 แห่ง และในเดือนเดียวกันนั้น เวียดนามกล่าวหาว่าปักกิ่งจมเรือลากอวนจับปลา ทำให้สหรัฐฯ ออกมากล่าวเตือนว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่รัฐต่างๆ กำลังให้ความสนใจสิ่งอื่น เพื่อขยายการอ้างสิทธิผิดกฎหมาย.