รอยเตอร์ - นักบินอังกฤษในเวียดนามที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนป่วยเข้าขั้นวิกฤตเฉียดใกล้ความตาย เวลานี้ฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์แล้ว และอยู่ในสถานะที่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของเวียดนามวันนี้ (17)
เคสของสตีเฟน คาเมรอน ดึงดูดความสนใจของคนในเวียดนามอย่างมาก ที่รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุก และกักตัวคนหมู่มากเพื่อเฝ้าสังเกตอาการป่วย จนทำให้ประเทศสามารถรักษายอดผู้ป่วยติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำอย่างน่าประทับใจที่ 335 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้
คำแถลงของรัฐบาลที่อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า แม้ผู้ป่วยจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วในตอนนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำกายภาพบำบัด
ผู้ป่วยวัย 43 ปีรายนี้เดินทางถึงเวียดนามจากอังกฤษในต้นเดือน มี.ค. เพื่อทำงานให้แก่สายการบินเวียดนาม ตามการรายงานของสื่อทางการ โดยเขาเป็นหนึ่งใน 19 คน ที่ไปเที่ยวบาร์ในนครโฮจิมินห์เมื่อวันที่ 13 มี.ค. สถานที่ที่พบการติดเชื้อโควิด-19 แบบกลุ่ม ที่ทำให้เขากลายเป็น ‘ผู้ป่วยรายที่ 91’
ในวันที่ 17 มี.ค. เขาได้ทำการบินครั้งแรกให้แก่สายการบินเวียดนามไปยังกรุงฮานอย และ 3 วันต่อมา เขาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการป่วยจากโควิด-19
ช่วงต้นเดือน เม.ย. คาเมรอนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงชีพที่โรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ และในเดือน พ.ค. เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ระบุว่า โรคทำให้สมรรถภาพปอดของเขาลดลงเหลือเพียง 10% และเขาจำเป็นต้องรับการปลูกถ่ายปอดอย่างเร่งด่วน
ด้วยผู้ป่วยโควิด-19 ในเวียดนามส่วนใหญ่หายดีแล้ว ข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 ทำให้เกิดการช่วยเหลืออย่างล้นหลามในระดับชาติ ประชาชนหลายสิบคนเสนอตัวเป็นผู้บริจาคปอดให้แก่ผู้ป่วยรายนี้
อย่างไรก็ตาม ในหลายสัปดาห์ต่อมา คาเมรอนเริ่มฟื้นคืนสติหลังอาการของเขาเริ่มดีขึ้น จนสามารถถอดเครื่องพยุงชีพออกได้ และอาจไม่ต้องมีเครื่องช่วยหายใจช่วยเหลือในเร็วๆ นี้ ตามการรายงานของสื่อทางการ ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องรับการปลูกถ่ายปอดอีกด้วย
ในภาพข่าวที่เผยแพร่ เผยให้เห็นคาเมรอนชูผ้าพันคอสโมสรฟุตบอลมาเธอร์เวลล์ หลังจากเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและนักการทูตอังกฤษ
“ผมบอกเขาว่าเขาน่าจะแข็งแรงพอที่จะกลับอังกฤษได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่าเขามาจากสกอตแลนด์” เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข กล่าว.