MGR ออนไลน์ - จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ความต้องการหน้ากากในตลาดโลกพุ่งสูง ส่งผลให้ยอดส่งออกหน้ากากของเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 415 ล้านชิ้น นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 19 เม.ย. ตามการเปิดเผยของศุลกากรเวียดนาม
รายงานระบุว่า เวียดนามได้ส่งออกหน้ากากผ้า หน้ากากกันฝุ่นละออง และหน้ากากผ้าคอตตอน 2 ชั้น รวมทั้งหมด 415.7 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่า 63.2 ล้านดอลลาร์ นับจนถึงวันที่ 19 เม.ย.
ธุรกิจด้านสิ่งทอและเสื้อผ้าของเวียดนามได้รับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องจากสหรัฐฯ และยุโรป ที่เป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนประเทศที่นำเข้าหน้ากากรายใหญ่ที่สุดคือ ญี่ปุ่น รองลงมาคือเกาหลีใต้ เยอรมนี สหรัฐฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ โปแลนด์ และออสเตรเลีย ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นหนึ่งในสินค้าไม่กี่ประเภทในภาคการส่งออกของเวียดนามที่เติบโตท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
แต่บริษัทผู้ผลิตหน้ากากในเวียดนาม ไม่สามารถส่งออกหน้ากากที่ผลิตได้ทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลกำหนดมาตรการจำกัดการส่งออกที่ 25% ของผลผลิตเท่านั้น เพื่อสำรองให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดการส่งออกนี้ถูกยกเลิกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่า เฉพาะผู้ผลิตภายในประเทศ 50 ราย ที่รายงานข้อมูลกับกระทรวงก็สามารถผลิตหน้ากากได้รวมกันเกินกว่า 8 ล้านชิ้นต่อวัน และขณะเดียวกัน ความต้องการหน้ากากและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในหลายประเทศเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งผู้นำเวียดนามกล่าวว่า ประเทศไม่ควรพลาดโอกาสนี้
การเปลี่ยนแปลงการผลิตของบริษัทต่างๆ จากการผลิตเสื้อผ้ามาเป็นหน้ากาก ช่วยให้กิจการต่างๆ ยังคงรักษาการผลิตได้ต่อไป รวมถึงการจ้างแรงงาน ที่ช่วยบรรเทาความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการยกเลิกคำสั่งซื้อ.
