รอยเตอร์ - เวียดนามปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เรือสำราญ 2 ลำ เข้าจอดเทียบท่า เนื่องจากความหวาดกลัวเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตามการรายงานของสื่อทางการ และผู้ประกอบการเรือสำราญวันนี้ (14)
เจ้าหน้าที่จาก จ.กว่างนีง (Quang Ninh) ที่เป็นสถานที่ตั้งของอ่าวฮาลอง แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก มีคำสั่งห้ามผู้โดยสารบนเรือไอด้าวีต้า (AIDAvita) ของเยอรมนีเข้าจอดเทียบท่าเพื่อให้คนขึ้นฝั่งในวันพฤหัสฯ (13) ตามการรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม (VNA)
“เรือลำดังกล่าวได้จอดเทียบท่าที่ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งทั้งหมดมีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา” สำนักข่าวเวียดนาม รายงาน
“การไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารของเรือไอด้าวีต้าขึ้นฝั่งเป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรค” สำนักข่าวเวียดนามอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
เรือสำราญล่องออกจากท่าโครอน ของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ข้ามทะเลจีนใต้มุ่งหน้ามายังเวียดนาม ตามข้อมูลเว็บไซต์ติดตามเรือ Marine Traffic ทั้งนี้ เรือมีกำหนดเยือนอ่าวฮาลองในวันเสาร์ (15) จากนั้นเดินทางต่อไปยังท่าเรือของนครด่าหนัง เมืองญาจาง และนครโฮจิมินห์ ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.
สิ่งที่โหมกระพือความหวาดกลัวให้แก่หลายประเทศที่ตามปกติจะอนุญาตให้เรือสำราญเข้าจอดเทียบท่า คือ การกักกันเรือไดมอนด์ปริ้นเซสในญี่ปุ่น ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 3,700 คน และพบว่าผู้โดยสารบนเรือ 218 คน มีเชื้อไวรัสโคโรนา
เรือสำราญเจด (Jade) สัญชาตินอร์เวย์ เป็นอีกลำหนึ่งที่ถูกปฏิเสธเข้าจอดเทียบท่าในเวียดนาม
“เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาในเอเชีย ทำให้ท่าเรือที่เราวางแผนจะเดินทางไปเยือนในเวียดนามนั้นไม่ยอมรับเรือสำราญอีกต่อไป” บริษัทผู้ประกอบการเรือสำราญ กล่าว
จดหมายของกัปตันเรือถึงผู้โดยสารยังระบุว่า บนเรือไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัส
“ไม่มีความเจ็บป่วยบนเรือ และไม่มีแขกหรือสมาชิกลูกเรือคนใดบนเรือถือหนังสือเดินทางจีน มาเก๊า ฮ่องกง หรือเคยเดินทางไปเยือน หรือเดินทางผ่านพื้นที่เหล่านี้” จดหมายของกัปตัน ระบุ.