xs
xsm
sm
md
lg

ญาติพี่น้อง-คนใกล้ชิด ‘ฮุนเซน’ แห่ถือสัญชาติไซปรัส คนวงในเผยเป็นช่องทางยามคับขัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวไว้ว่า ชนชั้นนำที่ปกครองประเทศเป็นผู้รักชาติไม่เคยซุกเงินไว้ในต่างประเทศ แต่จากการสืบสวนของรอยเตอร์กลับเผยให้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัว นายตำรวจ นักธุรกิจ หรือนักการเมืองคนสำคัญที่ใกล้ชิดกับฮุนเซนต่างมีทรัพย์สินในต่างแดนเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ และได้ใช้ความมั่งคั่งร่ำรวยของพวกเขาแสวงหาสัญชาติต่างประเทศ

ในเดือนธ.ค. 2560 หลังจากพรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ของประเทศถูกศาลสูงสั่งยุบพรรค จากความพยายามของฮุนเซนที่จะกำจัดคู่แข่งทางการเมือง สหรัฐฯและสหภาพยุโรปได้ขู่ที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับกัมพูชา ซึ่งฮุนเซนได้กล่าวตอบโต้อย่างท้าทายว่า “ทำตอนนี้เลยถ้าคุณกล้าพอ ไม่มีตรงไหนในโลกตะวันตกที่จะยึดทรัพย์สินต่างแดนของเจ้าหน้าที่กัมพูชา เพราะพวกเขาคงจะไม่โง่เง่าพอที่จะเก็บทรัพย์สินของพวกเขาไว้ในต่างประเทศ”

แต่การสืบสวนของรอยเตอร์ได้แสดงให้เห็นว่า คนใกล้ชิดสนิทสนมกับฮุนเซนได้ทำในสิ่งเหล่านั้น สมาชิกในครอบครัว นายตำรวจระดับสูง พรรคพวกทางธุรกิจและการเมือง ต่างมีทรัพย์สินในต่างแดนมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ และได้ใช้ความร่ำรวยของพวกเขาซื้อสัญชาติต่างประเทศ วิธีปฏิบัติที่ฮุนเซนกล่าวตำหนิประณามว่าเป็นพวกไม่รักชาติ และบางครั้งพยายามที่จะทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
หนังสือเดินทางไซปรัส.
ป้ายโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองปาฟอส.

ในบรรดาคนที่ได้รับหรือยื่นขอหนังสือเดินทางสหภาพยุโรปผ่านโครงการขายสัญชาติในไซปรัส คือ หลานของฮุนเซนและสามี ที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คู่สามีภรรยานักธุรกิจทรงอิทธิพลของประเทศ ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของครอบครัวฮุนเซน และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับฮุนเซนมาเป็นเวลานาน

ภาพถ่ายที่ปรากฎอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์ยังเผยให้เห็นว่าเครือญาติของฮุนเซนใช้ชีวิตสุขสบายหรูหราในยุโรป เช่นล่องเรือที่เกาะคาปรี เล่นสกีที่เมืองแวร์บิเยร์ ปาร์ตี้บนเกาะอิบิซา ซึ่งล้วนขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่วางภาพตัวเองในลักษณะของผู้นำที่สมถะเรียบง่ายตามแบบชาวกัมพูชาทั่วไป

ฮุนเซนในวัย 67 ปี ปกครองกัมพูชาด้วยกำปั้นเหล็กมานานกว่า 3 ทศวรรษ เขาได้จำคุกและทำให้คู่แข่งทางการเมืองต้องลี้ภัย ปิดสื่อและปราบปรามการชุมนุมประท้วงบนท้องถนน

นักวิเคราะห์ทางการเมืองกล่าวว่า ความท้าทายที่ฮุนเซนยังต้องเผชิญคือความไม่พอใจที่ยังคงคุกรุ่น โดยในเดือนก.พ. สหภาพยุโรปได้ตอบสนองต่อการปราบปรามของฮุนเซน ด้วยการเริ่มกระบวนการที่อาจนำไปสู่การระงับสิทธิพิเศษทางการค้าของประเทศ ที่สามารถส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ที่จ้างงานแรงงานหลายแสนชีวิต ซึ่งบรรดาชนชั้นนำทางธุรกิจและการเมืองของประเทศกำลังคิดหนัก ตามที่คนวงในรัฐบาลที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อได้เปิดเผยกับรอยเตอร์

“ทุกคนกำลังวางแผนหนี” คนวงในรัฐบาล กล่าว

รัฐบาลฮุนเซนไม่ได้ตอบสนองต่อคำถามของรอยเตอร์เกี่ยวกับประเด็นนี้ ญาติและคนใกล้ชิดของฮุนเซนก็เลือกที่จะไม่ตอบสนองเช่นกัน ยกเว้น ฮุน ปัญญาบท (Hun Panhaboth) เหลนของฮุนเซน ได้ออกมากล่าวปกป้องไลฟ์สไตล์ของเขาเช่นรูปถ่ายในอินสตาแกรมที่เขากำลังขับรถเมอร์เซเดสพร้อมกับถือธนบัตรเป็นฟ่อน

ในข้อความถึงรอยเตอร์ผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊กตัวเอง ฮุน ปัญญาบท กล่าวว่า “ผมไม่เห็นว่ามันจะส่งผลกระทบอะไร”

ชาวกัมพูชาอีกคนหนึ่งที่มีทรัพย์สินในต่างแดนคือ ฮุน กิมเล็ง (Hun Kimleng) หลานสาวของฮุนเซน รูปถ่ายจำนวนมากที่โพสบนอินสตาแกรมโดยพี่เลี้ยงของครอบครัวช่วยนำรอยเตอร์ไปยังอพาร์ทเมนต์หรูใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งอยู่ห่างจากพระราชวังของดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ไม่กี่ร้อยเมตร

ฮุน กิมเล็ง ซื้ออพาร์ทเมนต์นี้ในปี 2553 มูลค่า 1.95 ล้านปอนด์ (ราว 2.5 ล้านดอลลาร์) ตามบันทึกรายงานทรัพย์สินอย่างเป็นทางการ ซึ่งเวลานี้อาจมีมูลค่าอย่างน้อย 3.5 ล้านปอนด์ ตามการประเมินของเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ Zoopla นอกจากนั้น ฮุน กิมเล็ง ยังเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในคอนโดหรูที่สิงคโปร์ ตามการระบุของกรมที่ดินสิงคโปร์ด้วย

และในปี 2559 ฮุน กิมเล็ง ได้กลายเป็นพลเมืองต่างประเทศ นั่นคือ ไซปรัส

ฮุนเซนมักตำหนิประณามคู่แข่งทางการเมืองของเขาที่ถือหนังสือเดินทางเล่มที่ 2 โดยระบุว่าเป็น “เส้นทางหลบหนีจากความยากลำบากในกัมพูชา” แต่อย่างไรก็ตาม สัญชาติไซปรัสของหลานสาวฮุนเซนได้รับการยืนยันโดยเอกสารลับที่กระทรวงมหาดไทยของไซปรัสส่งไปยังคณะรัฐมนตรี

การได้รับหนังสือเดินทางไซปรัสยังทำให้หลานสาวของฮุนเซนได้สถานะพลเมืองของสหภาพยุโรป ซึ่งไซปรัสเข้าร่วมในปี 2547 นั่นทำให้ฮุน กิมเล็ง มีสิทธิที่จะอาศัย ทำงาน และเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าใน 28 ประเทศของสหภาพยุโรป

การเป็นชาวไซปรัสนั้นราคาไม่ถูก : มันเกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างน้อย 2 ล้านยูโร (ราว 2.2 ล้านดอลลาร์) โดยระหว่างปี 2556-2561 ไซปรัสได้มอบสัญชาติให้กับชาวต่างชาติ 3,200 คน ภายใต้โครงการการลงทุนของประเทศ ที่กวาดรายได้ไปทั้งหมด 6,600 ล้านยูโร

เอกสารยืนยันการเป็นพลเมืองของฮุน กิมเล็ง ของกระทรวงมหาดไทยไซปรัส ลงวันที่ 21 พ.ย. 2560 และเอกสารยังแนะนำให้คณะรัฐมนตรีมอบสถานะพลเมืองให้กับพลตำรวจเอกเนธ สะเวือน สามีของฮุน กิมเล็ง และลูกสาวที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 2 คนของพวกเขา ซึ่งคณะรัฐมนตรีมักอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวง รัฐมนตรีมหาดไทยไซปรัสกล่าวกับรอยเตอร์


ชายหาดย่านเปเยียในไซปรัส.
พลตำรวจเอกเนธ สะเวือน เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เป็นผู้ดูแลกองกำลังที่รับผิดชอบการจับกุมฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของฮุนเซนและการปราบปรามอย่างรุนแรงกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล และยังเป็นสมาชิกระดับสูงของพรรคประชาชนกัมพูชา ที่เป็นพรรครัฐบาลของประเทศด้วย

เมื่อปีก่อน ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุชื่อพลตำรวจเอกเนธ สะเวือน เป็นหนึ่งใน 12 นายพล ที่เป็น “กระดูกสันหลังของระบอบการเมืองที่ปฏิบัติมิชอบและยึดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเผด็จการ” แต่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่ารายงานชิ้นดังกล่าวเป็นรายงานที่กุขึ้น

เอม สุวันนารา นักวิชาการและนักวิเคราะห์การเมืองในกรุงพนมเปญ กล่าวว่า การที่นายตำรวจระดับสูงของประเทศแสวงหาการเป็นพลเมืองต่างชาติอาจแสดงให้เห็นว่าผู้นำของพรรคกำลังสูญเสียศรัทธาความเชื่อมั่นต่อกันและกัน

“มันเป็นสัญญาณของความเปราะบางในพรรครัฐบาล” เอม สุวันนารา กล่าวกับรอยเตอร์

ฝ่ายค้านของกัมพูชาได้ย้ำข้อกล่าวหาที่ว่าพลตำรวจเอกเนธ สะเวือน และครอบครัวของเขา ได้สถานะพลเมืองต่างชาติ โดยในเดือนส.ค. หนึ่งในแกนนำฝ่ายค้านได้โพสต์รูปถ่ายบนเฟซบุ๊กที่เขากล่าวว่าเป็นหนังสือเดินทางไซปรัสของครอบครัวนายตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งโพสต์นี้ดูเหมือนจะสร้างความไม่พอใจอยู่ไม่น้อยที่ในวันต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชาได้ออกคำแถลงระบุว่า พลตำรวจเอกเนธ สะเวือน จะไม่หลบหนีไปประเทศอื่น และไม่เคยทรยศชาติ

ในปี 2560 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุให้พลตำรวจเอกเนธ สะเวือน ฮุน กิมเล็ง และลูกทั้ง 3 คนของพวกเขา อยู่ในรายชื่อบัญชีดำวีซ่าจากการบ่อนทำลายประชาธิปไตย ตามการระบุของสหรัฐฯ และแหล่งข่าวอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถเดินทางไปยังสหรัฐฯ ได้ ยกเว้นกิจการของทางการ

แต่ไซปรัสดูเหมือนเข้มงวดน้อยกว่า ตามที่ระบุในเอกสารลับ รัฐมนตรีมหาดไทยไซปรัสได้เรียกร้องให้คณะรัฐบาลมอบสัญชาติให้กับพลตำรวจเอกเนธ สะเวือน และลูกสาวที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 2 คน และระบุว่าพวกเขาไม่เคยเยือนไซปรัสมาก่อน

ตามกฎหมายของไซปรัส ลูกสาวของพวกเขามีคุณสมบัติในการเป็นพลเมืองหากยังเป็นผู้ที่ต้องพึ่งพาทางการเงินกับผู้ยื่นขอหลัก ซึ่งในกรณีนี้คือฮุน กิมเล็ง ที่เป็นแม่ของพวกเขา แต่ วิชุนา เนธ (Vichhuna Neth) อายุ 26 ปี ลูกสาวหนึ่งใน 2 คน ที่มีชื่อในเอกสารของกระทรวงมหาดไทย ดูเหมือนจะเป็นบุคคลร่ำรวยที่ไม่ต้องพึ่งพาการเงินใคร ซึ่งในเดือนก.ย. 2560 สามเดือนก่อนกระทรวงมหาดไทยจะออกเอกสาร วิชุนา เนธ ซื้ออพาร์ทเมนต์ในลอนดอนที่มีขนาด 2 ชั้น 4 ห้องนอน มูลค่า 5.5 ล้านปอนด์ ใกล้กับอพาร์ทเมนต์ของแม่เธอ ตามข้อมูลอสังหาริมทรัพย์อังกฤษ

รัฐบาลไซปรัสไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นของรอยเตอร์เกี่ยวการตัดสินใจของรัฐบาลในการมอบสัญชาติให้กับเครือญาติและคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน รวมทั้ง การถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ และไม่มีการตอบสนองต่อคำถามเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบชาวเขมรที่มีชื่อเสียงเหล่านี้เช่นกัน

รายละเอียดของเอกสารเกี่ยวกับสัญชาติของฮุน กิมเล็ง และครอบครัวของเธอ เป็นส่วนหนึ่งของชุดเอกสารกระทรวงมหาดไทยที่รอยเตอร์ได้เห็น ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับคำร้องขอหนังสือเดินทางไซปรัสหลายพันฉบับจากชาวต่างชาติที่ร่ำรวย

เอกสารเหล่านี้อยู่ในรูปของจดหมาย ที่กระทรวงมหาดไทยสรุปคำร้องขอสัญชาติไซปรัสและคำแนะนำต่อคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติ จดหมายที่กล่าวถึงฮุน กิมเล็ง เป็นการยืนยันว่าฮุน กิมเล็ง เป็นพลเมืองไซปรัส แต่จดหมายฉบับอื่นๆ เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ซึ่งเอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสมาชิกในเครือญาติคนใกล้ชิดของฮุนเซนต่างได้รับหรือยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทางไซปรัส ที่ยังรวมถึง โอน พรมุนีรุธ (Aun Pornmoniroth) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและที่ปรึกษาด้านการเงินของฮุนเซน และภรรยาของเขาก็ยื่นคำร้องด้วยเช่นกัน

พลตำรวจเอกเนธ สะเวือน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ.
นอกจากนี้แล้ว ผู้ที่ขอสัญชาติไซปรัสยังรวมถึงพันธมิตรที่ร่ำรวยที่สุดและใกล้ชิดที่สุดของฮุนเซน 2 คน คือ เจือง สุเพียบ (Choeung Sopheap) และ เลา มิง กาน (Lau Ming Kan) สามี ผู้ก่อตั้งบริษัทเพียบพิเม็กซ์ (Pheapimex) กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งในรายงานของโกลบอลวิทเนส (Global Witness) กลุ่มต่อต้านคอร์รัปชั่นที่มีสำนักงานในลอนดอน ได้ใช้การสำรวจทางอากาศและการตรวจสอบลงพื้นที่บันทึกการตัดไม้ผิดกฎหมายของบริษัทเพียบพิเม็กซ์ แต่ฮุนเซนได้กล่าวหาว่าโกลบอลวิทเนสเล่าเรื่องปด

หนึ่งในบริษัทของเจืองและเลาพัวพันกับการขับไล่ที่ชาวเขมรหลายพันครอบครัวจากพื้นที่พัฒนาในกรุงพนมเปญ ครอบครัวชาวเขมรที่ชุมนุมประท้วงการไล่ที่ถูกทำร้ายทุบตีและจำคุก และจากการขับไล่ที่ดังกล่าว ธนาคารโลกได้ระงับสินเชื่อก้อนใหม่กับกัมพูชาเป็นการชั่วคราว ทั้งเจืองและเลาไม่ได้ตอบสนองต่อคำถามของรอยเตอร์เกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจของพวกเขา

เจืองและเลาทั้งคู่อยู่ในวัย 70 และครอบครัวของพวกเขามีธุรกิจหรือแต่งงานเกี่ยวโยงกับลูกของฮุนเซน เลาเป็นวุฒิสมาชิกของพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน ส่วนเจืองนั่งตำแหน่งคณะกรรมการสภากาชาดกัมพูชา และยังเป็นเพื่อนสนิทของประธานสภากาชาด นั่นคือ บุน รานี ภริยาของฮุนเซน

เจืองและเลายังใกล้ชิดกับกองกำลังความมั่นคงกัมพูชา ทั้งคู่มักมอบซองแดงใส่เงินสดเป็นของขวัญตามธรรมเนียมเนื่องในวันตรุษจีน ให้กับทหาร ตำรวจ และบอดี้การ์ดของฮุนเซนรวมหลายพันนายที่รวมตัวกันอยู่นอกบ้านพักของพวกเขาในกรุงพนมเปญ ตามการรายงานของสื่อทางการ รายงานชิ้นหนึ่งอ้างคำกล่าวของลูกชายของทั้งคู่ว่าพ่อแม่ของเขาบริจาคเงินจำนวนมากเช่นนี้มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว

เจืองและเลาได้รับหนังสือเดินทางไซปรัสในเดือนก.พ. 2560 ขณะที่ลูก 4 คน จากทั้งหมด 5 คนของทั้งคู่ได้ยื่นคำร้องของหนังสือเดินทางไซปรัสในปีเดียวกัน
โอน พรมุนีรุธ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง.
ชาวเขมรที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ล้วนแสวงหาสัญชาติไซปรัสในช่วงเวลาที่ประเทศสับสนวุ่นวาย เมื่ออำนาจที่ฮุนเซนกุมไว้ดูเหมือนจะไม่มั่นคง ปัญหาของฮุนเซนนี้ต้องย้อนกลับไปในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2556

พรรคประชาชนกัมพูชาของเขาครอบครองชัยชนะในการเลือกตั้งมายาวนาน แต่ในปี 2556 พรรคของเขากลับชนะที่นั่งในสภาเพียง 63 ที่นั่งจากทั้งหมด 123 ที่นั่ง และได้คะแนนเสียงเพียง 48% ของคะแนนเสียงทั้งหมด นับเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดของฮุนเซนในรอบ 15 ปี

ความโกลาหลเกิดขึ้นตามมา ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านที่ฟื้นคืนชีพตบเท้าลงสู่ถนนในกรุงพนมเปญ เพื่อประท้วงการเลือกตั้งที่ถูกสงสัยว่ามีการโกงเลือกตั้ง แต่การชุมนุมถูกสลายตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อกำลังทหารตำรวจเปิดฉากยิงและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายสิบคน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจำเป็นต้องลี้ภัย ส่วนผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาถูกกักบริเวณภายในบ้านพัก และพรรคถูกศาลสูงสั่งยุบ

นักวิจารณ์อีกหลายคนถูกปราบปรามในการจับกุมและดำเนินคดี และหนึ่งในนั้นถูกปิดปากอย่างถาวร นั่นก็คือ แกม เล (Kem Ley) นักเคลื่อนไหวชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตกลางวันแสกๆ ในเดือนก.ค. 2559 ตำรวจระบุว่าเขาถูกสังหารโดยชายคนหนึ่งที่เขาติดหนี้อยู่ ซึ่งมือปืนได้รับสารภาพและกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิต

การฆาตกรรมดังกล่าวยังส่งผลกระทบกับฝ่ายค้านของกัมพูชา โดยในปี 2561 คู่แข่งของฮุนเซนถูกข่มขู่คุกคาม และการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นในคราวนี้ พรรคของฮุนเซนกวาดคะแนนเสียงไปทั้งหมด 77% และได้ทุกที่นั่งในสภา

สหรัฐฯ ระบุว่าการเลือกตั้งนี้เป็นการเสื่อมถอยของประชาธิปไตยของกัมพูชา แต่ฮุนเซนไม่สนใจ ทั้งยังกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติในเดือนก.ค. 2562 ว่า การเลือกตั้งของกัมพูชาดำเนินไปอย่างเสรี ยุติธรรม และเที่ยงธรรม และเรียกกัมพูชาว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ

บริษัทที่ดำเนินการการยื่นคำร้องขอสัญชาติไซปรัส ระบุว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถ และต้องการหนังสือเดินทางไซปรัสที่ให้เสรีภาพแบบชาวยุโรปกับพวกเขา และสำหรับบางคน หนังสือเดินทางนี้ยังเป็นการรับประกัน

หุ้นส่วนของบริษัท Andreas Demetriades & Co. บริษัทกฎหมายครอบครัวที่ดำเนินการการยื่นคำร้องขอสัญชาติไซปรัสจากการลงทุน กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่ามีหลายประเทศที่ไร้เสถียรภาพทางการเมือง ที่ประชาชนรู้สึกว่าครอบครัวของพวกเขาและผลประโยชน์ทางธุรกิจของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเขาที่จะมีบางอย่างรองรับหากมีสิ่งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น”

สำหรับสมาชิกบางคนในชนชั้นนำของกัมพูชา หนังสือเดินทางไซปรัสเป็นเครื่องประดับไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา ที่อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนในฐานะผู้นำพรรคที่สมถะซึ่งเป็นตัวแทนชาวเขมรทั่วไป

การชุมนุมประท้วงปะทุขึ้นในกรุงพนมเปญ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2556.
ความร่ำรวยเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวังอย่างมากในกัมพูชา ธนาคารพัฒนาเอเชียประเมินว่า 70% ของประชาชนมีชีวิตอยู่ด้วยเงิน 3 ดอลลาร์ต่อวัน และฮุนเซนได้วางภาพตัวเองมายาวนานในฐานะผู้นำที่ร่วมทนทุกข์ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมชาติที่ยากจนของเขา ซึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์ที่โรงงานชานกรุงพนมเปญเมื่อเดือนก.พ. ผู้นำเขมรกล่าวว่าเขาไม่ได้มีสัญชาติที่สอง หรือบ้านในต่างประเทศ และเลือกที่จะกินหญ้ากับชาวเขมร

แต่เครือญาติจำนวนมากในตระกูลฮุนของผู้นำกัมพูชาโอ้อวดความมั่งคั่งร่ำรวยของพวกเขาบนสื่อสังคมออนไลน์ หนึ่งในรูปถ่ายบนอินสตาแกรมเผยให้เห็นหลานสาวของฮุนเซน 2 คน คือ ฮุน กิมเล็ง และฮุน จันทา โพสต์ท่าในชุดราตรีพร้อมสร้อยคอทองคำเข้าชุด ส่วนรูปอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ของพวกเขา ที่มักใช้เครื่องบินส่วนตัว เช่นไปชมแฟชั่นโชว์ในปารีส บ้านพักบนเนินเขาบนเกาะมิโคนอส และไนท์คลับในลอนดอน เป็นต้น

ฮุน ปัญญาบท เหลนของฮุนเซน มอบรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้กับแฟนสาวของเขาเป็นของขวัญวันเกิด ตามที่ปรากฎในรูปถ่ายบนเฟซบุ๊ก

“ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่มีความสุขและยินดีกับเรา ผมไม่คิดว่าของขวัญนี้จะทำให้นายกรัฐมนตรีต้องดูไม่ดีไม่ว่าทางใดก็ตาม” ฮุน ปัญญาบท กล่าวกับรอยเตอร์.


กำลังโหลดความคิดเห็น