รอยเตอร์ - 6 จังหวัดในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม กำลังพยายามอย่างหนักที่จะต่อสู้กับการกัดเซาะอย่างรุนแรงของแม่น้ำและเครือข่ายชายฝั่ง ที่บางพื้นที่จำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วน ตามการรายงานของสื่อทางการวันนี้ (24)
สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า จ.ลองอาน จ.อานซยาง จ.ด่งท้าป จ.เบนแจ๋ จ.ซ้อกจาง และ จ.ก่าเมา ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือปิดล้อมที่ดินตามริมฝั่งแม่น้ำโขงเนื่องจากการกัดเซาะ
“ใน จ.ก่าเมา พื้นที่ตามแนวแม่น้ำเป็นระยะทางมากกว่า 25 กิโลเมตร จำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน พื้นที่ที่ถูกกัดเซาะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่หน่วยงานราชการ สถานศึกษา และสถานพยาบาลต่างๆ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและอันตรายอย่างยิ่ง” สำนักข่าวเวียดนามรายงาน
แม่น้ำโขงที่มีความยาว 4,350 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากที่ราบสูงทิเบตของจีน ไหลผ่านมาตามแนวพรมแดนของพม่า ลาว และไทย ตัดผ่านกัมพูชา และมาสิ้นสุดที่เวียดนาม ที่ทำให้เกิดพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่เรียกกันในเวียดนามว่า “9 มังกร”
ในเดือน ม.ค. รอยเตอร์ลงพื้นที่ 3 จังหวัด ที่ตั้งอยู่ตามสาขาต่างกันของแม่น้ำในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังพยายามอย่างหนักที่จะชะลอการกัดเซาะอย่างรวดเร็วในพื้นที่
นอกเหนือไปจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ การสร้างเขื่อนต้นน้ำในกัมพูชา ลาว และจีน ที่ขัดขวางตะกอนสำคัญจากการไหลลงมาถึงปลายน้ำของแม่น้ำ
ตะกอนเหล่านี้ ที่มีความสำคัญสำหรับการตรวจสอบกระแสน้ำของแม่น้ำโขง ยังสูญหายไป จากการทำเหมืองทรายตามแม่น้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการทรายอย่างมหาศาลในภาคการก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในเดือน ก.ค. ความลึกของแม่น้ำโขงที่เป็นเครื่องหมายพรมแดนระหว่างลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยลดลงต่ำกว่า 1.5 เมตร เทียบกับความลึกเฉลี่ย 8 เมตร สำหรับช่วงเวลาเดียวกันของปี เนื่องจากภัยแล้งและการทำเขื่อนต้นน้ำ
เจ้าหน้าที่ใน จ.ก่าเมา ของเวียดนามได้ยื่นคำร้องต่อรัฐบาลเพื่อของบประมาณพิเศษ 74,000 ล้านด่ง (3.19 ล้านดอลลาร์) สำหรับโครงการฉุกเฉินที่จำเป็นสำหรับการป้องกันเขื่อนกั้นน้ำทะเลทางตะวันตกของจังหวัด
พื้นที่ส่วนหนึ่งของจังหวัดนี้สูญเสียที่ดินจากการกัดเซาะไปราว 80-100 เมตรต่อปี ตามการรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม.