กองทัพพม่าเตรียมลงโทษทหารบกพร่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกรณีทารุณโรฮิงญา

รอยเตอร์ - กองทัพพม่าจะนำตัวทหารขึ้นศาลทหารหลังพบข้อค้นพบใหม่ในการไต่สวนเหตุทารุณกรรมในรัฐยะไข่ จากการปราบปรามภายใต้การนำของทหารที่ทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน อพยพหลบหนีในปี 2560 ที่สหประชาชาติระบุว่า เป็นการปราบปรามที่มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

เมื่อวันเสาร์ (31) เว็บไซต์ของ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุว่า เจ้าหน้าที่ศาลทหารที่ลงพื้นที่ตอนเหนือของรัฐ พบว่า ทหารได้แสดงถึงข้อบกพร่องในการปฏิบัติตามคำสั่งในบางเหตุการณ์ยังหมู่บ้านที่ระบุว่าเป็นพื้นที่สังหารหมู่โรฮิงญา

ในปี 2561 สำนักข่าวเอพีได้รายงานการมีอยู่ของหลุมฝังศพชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 5 หลุม ในหมู่บ้าน Gutarpyin เมืองบุติด่อง แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลในเวลานั้นกล่าวว่า มีผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 19 คน และศพของพวกเขาถูกฝังอย่างระมัดระวัง

ตุน ตุน นี โฆษกฝ่ายทหารได้กล่าวกับรอยเตอร์ในวันนี้ว่า ข้อค้นพบของการสืบสวนนั้นเป็นความลับ

“เราไม่มีสิทธิที่จะทราบถึงเรื่องนี้ พวกเขาจะออกคำแถลงอีกฉบับเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น” ตุน ตุน นี กล่าวทางโทรศัพท์

ศาลทหารที่ประกอบด้วยนายทหารยศพลตรี 1 นาย และยศพันเอก 2 นาย ถูกตั้งขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. เพื่อตอบสนองต่อข้อกล่าวหาของสหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชน องค์การนิรโทษกรรมสากล และฮิวแมนไรท์วอทช์ ที่ว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงกระทำการสังหารหมู่ การข่มขืน และการวางเพลิง

กองกำลังทหารพม่าดำเนินการปราบปรามในรัฐยะไข่ ตอบโต้การโจมตีหลายระลอกของกลุ่มก่อความไม่สงบโรฮิงญา ที่โจมตีด่านความมั่นคงใกล้ชายแดนบังกลาเทศ

เมื่อปีที่ผ่านมา ภารกิจค้นหาข้อเท็จจริงของสหประชาชาติ กล่าวว่า การปราบปรามของทหารเป็นการกระทำที่มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเสนอให้ตั้งข้อหากับ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย และนายพลอีก 5 นาย จากการก่ออาชญากรรมรุนแรงภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหา แม้ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย จะกล่าวเมื่อเดือนก่อนว่ามีนายทหารจำนวนหนึ่งอาจมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และการสืบสวนก่อนหน้านี้ของทหารในปี 2560 ได้ทำให้ทหารพ้นจากข้อกล่าวหาต่างๆ.