รอยเตอร์ - เฟซบุ๊กกำลังจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่มีเป็นจำนวนมากในเวียดนาม ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐวานนี้ (15) ในขณะที่ประเทศเพิ่มการรณรงค์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น
เฟซบุ๊ก แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในเวียดนาม ประเทศที่แม้ว่าจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมากขึ้น แต่พรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นรัฐบาลยังคงเซ็นเซอร์สื่ออย่างเข้มงวด และไม่อดทนยินยอมต่อการวิพากษ์วิจารณ์
“ตอนนี้เฟซบุ๊กตอบสนองคำร้องของรัฐบาลเวียดนาม 70-75% เมื่อเทียบกับประมาณ 30% ในช่วงก่อนหน้า” รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารกล่าวในที่ประชุมรัฐสภา ในกรุงฮานอย
เหวียน แม็ง หุ่ง รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสาร อ้างถึงคำร้องของรัฐบาลสำหรับข้อจำกัดของเฟซบุ๊ก ซึ่งหมายถึงเนื้อหาที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์จะไม่สามารถดูได้ในบางประเทศ เพราะถือเป็นการละเมิดกฎหมายท้องถิ่น
เฟซบุ๊กระบุในเดือน พ.ค.ว่า บริษัทเพิ่มจำนวนเนื้อหาที่ถูกจำกัดการเข้าถึงในเวียดนามมากกว่า 500% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561
เวียดนามมีกฎระเบียบเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเข้มงวดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์เมื่อเดือน ม.ค. ที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ตั้งสำนักงานในท้องถิ่นและจัดเก็บข้อมูลในประเทศ
ในอดีต ทางการกรุงฮานอยกล่าวหาสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ว่าละเมิดกฎหมายท้องถิ่น จากการปล่อยให้ความคิดเห็นล้มล้างรัฐบาลเผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์มของบริษัท
เว็บไซต์ ยูทิวป์ของกูเกิล เวลานี้ตอบสนองคำร้องของรัฐบาล 80-85% เพิ่มขึ้นจาก 60% เมื่อปีก่อน ตามการระบุของรัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสาร
เหวียน แม็ง หุ่ง ยังกล่าวว่า เวียดนามได้สร้างศูนย์ตรวจสอบเนื้อหาเว็บไซต์ข่าวและสื่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถจำแนกข้อมูลจำนวนมากออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น “เชิงบวก” และ “เชิงลบ” โดยสัดส่วนของข้อมูลเชิงลบมีอยู่ราว 30% แต่เวลานี้ ได้ดำเนินการให้สัดส่วนของข้อมูลดังกล่าวเหลือน้อยกว่า 10%
นอกจากนั้น ทางกระทรวงข้อมูลข่าวสารยังขอให้เฟซบุ๊กเปิดเผยอัตลักษณ์บัญชีผู้ใช้งาน โดยขั้นต้นเริ่มจากในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ โดยบัญชีผู้ใช้งานเฉพาะที่ผ่านการรับรองแล้วเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ออกอากาศสดบนแพลตฟอร์ม สื่อท้องถิ่นรายงาน.