รอยเตอร์ - เวียดนามกำลังพิจารณานำเข้าถ่านหินจากสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการเชื้อเพลิงสำหรับผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ตามการรายงานของสื่อทางการวันนี้ (6) ในขณะที่ประเทศวางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอีกจำนวนมาก
เวียดนามกำลังพยายามที่จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้มูลค่าการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ แคบลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรกับผลิตภัณฑ์ของเวียดนามท่ามกลางสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
ผู้บริหารจากบริษัท Vinacomin ผู้ผลิตถ่านหินของรัฐ และบริษัท Xcoal Energy & Resources ที่มีสำนักงานในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้พบหารือกันเมื่อสัปดาห์ก่อนในกรุงฮานอย เพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ของการส่งถ่านหินสหรัฐฯ มายังเวียดนาม ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
เวียดนามเพิ่งกลายเป็นผู้นำเข้าถ่านหินอย่างแท้จริง ที่ถ่านหินส่วนใหญ่ขนส่งมาจากออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย และคาดว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะมีสัดส่วนร้อยละ 42.6 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าของเวียดนามในปี 2573 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.1 ในปัจจุบัน ตามการระบุของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า
แม้รายงานชิ้นนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้า แต่ระบุว่าบริษัท Vinacomin ผลิตถ่านหินราว 40 ล้านตันต่อปีจากเหมืองภายในประเทศ
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เวียดนามจะต้องต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนพลังงานอย่างรุนแรงตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และเสริมว่า เวียดนามจะต้องนำเข้าถ่านหิน 680 ล้านตัน เพื่อป้อนให้แก่โรงไฟฟ้าของประเทศระหว่างปี 2559-2573
ในอีกความเคลื่อนไหวเพื่อลดการได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ โรงกลั่นและปิโตรเคมีบิ่งเซินของเวียดนาม ระบุเมื่อเดือนก่อนว่า จะนำเข้าน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (WTI Crude) 2-3 ล้านบาร์เรล ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เพื่อป้อนให้แก่โรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต
เวียดนามมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 20,590 ล้านดอลลาร์ ในครึ่งแรกของปีนี้ จาก 15,550 ล้านดอลลาร์ของปีก่อนหน้า ตามข้อมูลศุลกากรของเวียดนาม
รัฐบาลเวียดนามกล่าวในเดือน มิ.ย.ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของประเทศและกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ จะลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในเร็วๆ นี้.