เจ้าของธุรกิจเวียดนามยิ้ม คาดข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรปกระตุ้นยอดส่งออก

เอเอฟพี - จากการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปและเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ (30) ผู้ผลิตการ์ดอวยพรวันสำคัญ อย่างดั่ง จอง จึง คาดหวังว่าธุรกิจของเขาจะขยายตัวถึงสองเท่าจากการเข้าถึงตลาดยุโรปแบบปลอดภาษีนี้

ข้อตกลงที่เฝ้ารอมายาวนานและลงนามกันในกรุงฮานอยวานนี้ ในท้ายที่สุดจะยกเลิกอัตราภาษีศุลกากรแก่สินค้าที่ยุโรปนำเข้าจากเวียดนามถึงร้อยละ 99 เมื่อข้อตกลงมีผลบังคับใช้ ความเคลื่อนไหวที่น่าจะส่งผลต่อบริษัทบรรจุภัณฑ์แอ็งดึ๊ก ของดั่ง จอง จึง ที่ตั้งอยู่ใน จ.หุ่งเอียน ใกล้กรุงฮานอย

บริษัทของจึงผลิตการ์ดอวยพร ป้ายของขวัญ ถุงกระดาษและถุงพลาสติก โดยราว 60% ของสินค้าที่ส่งออก มีปลายทางคือตลาดยุโรป

“ผมหวังว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปริมาณและมูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้น 2 เท่า” ดั่ง จอง จึง กล่าวกับเอเอฟพี ที่โกดังสินค้าของบริษัทที่เต็มไปด้วยกองการ์ดอวยพรวันคริสต์มาสภาษาเยอรมัน พร้อมรูปกวางเรนเดียร์และต้นสนที่มีหิมะปกคลุมกำลังถูกพิมพ์ออกมา

ปัจจุบัน สินค้าส่งออกหลักของประเทศคือ สิ่งทอ รองเท้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์

แต่เมื่ออัตราภาษีในสินค้าเกือบทั้งหมดที่ส่งออกไปยังยุโรปถูกยกเลิกในอีกไม่กี่ปีหลังข้อตกลงมีผลบังคับใช้ อุตสาหรรมต่างๆ เช่นเดียวกับของดั่ง จอง จึง จะได้ส่วนแบ่งการส่งออกมากขึ้น

บริษัทเพิ่มการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อรู้ว่าพลาสติกำลังไม่เป็นที่ต้องการในหมู่ผู้บริโภคยุโรป และยังหวังที่จะเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพสูงจากยุโรปได้มากขึ้นหลังยกเลิกภาษี

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ยังสามารถนำไปสู่การแข่งขันที่สูงมากขึ้นจากผู้ผลิตการ์ดยุโรปที่อาจเลือกย้ายธุรกิจของพวกเขามาที่เวียดนาม ศูนย์กลางแรงงานราคาถูกที่มีชื่อเสียงสำหรับแรงงานที่มีทักษะสูง

“เมื่อข้อตกลงมีผลบังคับใช้ จะมีการแข่งขันเกิดขึ้น แต่เราไม่กังวลมากนักเพราะเรามีประสบการณ์การส่งออกถึง 15 ปี” ผู้อำนวยการบริษัทแอ็งดึ๊ก กล่าว

เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของเวียดนาม ส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนจากการค้าเสรี ที่ส่งออกไปยังตลาดยุโรป จีน และสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่

แต่ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า จากสงครามการค้าที่ดำเนินมายาวนานระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยิ่งส่งผลให้เวียดนามปรารถนาที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับยุโรปมากขึ้น

แม้เวียดนามจะได้รับประโยชน์ระยะสั้นบางอย่างจากสงครามการค้า ที่หลายบริษัทย้ายกิจการจากจีนเพื่อเลี่ยงกำแพงภาษี แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า จะไม่มีใครชนะจากสงครามนี้ หากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ ชะลอตัวลง และปล่อยให้ผู้บริโภคของพวกเขามีเงินน้อยลงที่จะซื้อสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม

คนงานบางส่วนที่โรงงานกระดาษแอ็งดึ๊ก ต่างหวังให้ข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

“เราหวังที่จะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น คำสั่งซื้อมากขึ้นจากยุโรป ซึ่งจะทำให้เรามีรายได้มากขึ้น ชีวิตของพวกเราจะดีขึ้น” ช่างพิมพ์ของบริษัท กล่าว.