รอยเตอร์ - เวียดนามระบุว่า มีความมุ่งมั่นที่จะทำการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรมกับสหรัฐฯ ความเห็นที่เกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีกับสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนาม ท่ามกลางสงครามการค้ากับจีนที่กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่อง
ทรัมป์ กล่าวเมื่อกลางสัปดาห์ว่า รัฐบาลของเขากำลังหารือกับฝ่ายเวียดนามเรื่องการค้า และระบุว่า เวียดนามปฏิบัติต่อสหรัฐฯ แย่กว่าจีนในแง่ของการค้า
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามตอบสนองความคิดเห็นของผู้นำสหรัฐฯ ว่า เวียดนามต้องการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐฯ
“เวียดนามแสวงหาการเพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนกับสหรัฐฯ ที่ช่วยส่งเสริมเสรีภาพและความเป็นธรรม บนพื้นฐานของประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย” เล ถิ ทู ห่าง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าว
“เวียดนามได้ดำเนินความพยายามที่จะปรับปรุงดุลการค้าทวิภาคี และส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ที่เวียดนามต้องการ” เล ถิ ทู ห่าง กล่าว
คำแถลงของฝ่ายเวียดนามยังเน้นย้ำถึงความพยายามที่เกิดขึ้นจากฝ่ายฮานอยในการปราบปรามสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศแต่ผู้ส่งออกเปลี่ยนป้ายอย่างผิดกฎหมายให้กลายเป็น “ผลิตในเวียดนาม” เพื่อหลบเลี่ยงภาษี
ตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือ สหรัฐฯ ที่มูลค่าการค้าเกินดุลอย่างรวดเร็ว การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ ที่เป็นผลจากการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง
หลังการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ รอบนอกการประชุม G20 ในญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ (28) เวียดนามระบุว่า จะเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม และกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ จะลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการนำเข้า LNG ในเร็วๆ นี้ ตามคำแถลงของรัฐบาลเวียดนาม แต่คำแถลงไม่ได้ระบุถึงปริมาณ LNG ที่จะนำเข้า ระบุเพียงว่า จะเป็นความร่วมมือด้านพลังงานทางยุทธศาสตร์และระยะยาว
การส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ ที่ถูกยกว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากสงครามการค้า มีปริมาณเพิ่มขึ้น 29% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ตามการระบุของข้อมูลศุลกากรเวียดนาม เวียดนามเกินดุลการค้า 17,000 ดอลลาร์ กับสหรัฐฯ ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับการเกินดุลการค้า 12,900 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน.