เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าขุดรื้อซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หลังอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มในเมืองสีหนุวิลล์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คน
ในเช้าวันนี้ (23) เจ้าหน้าที่สามารถรื้อถอนซากอาคารทั้งส่วนที่เป็นโลหะ แก้ว และแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ได้เกือบครึ่งหนึ่ง
ชาวจีน 3 คน และชาวเขมรที่เป็นเจ้าของที่ดินถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์อาคารพังถล่ม ที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวตำหนิว่า เป็นความประมาทของบริษัทก่อสร้าง
เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทหาร ตำรวจ และหน่วยแพทย์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างชาวจีนรวมอย่างน้อย 1,000 คน รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่บางส่วนสวมหมวกนิรภัยและสะพายถังออกซิเจนขณะเข้าค้นหาผู้รอดชีวิตพร้อมๆ กับคนขุดซากอาคาร ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรอฟังข่าวอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพเหยื่อออกจากซากอาคารในคืนวันเสาร์ได้อีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน
เจ้าหน้าที่ประจำจังหวัด ระบุว่า “ทีมกู้ภัยเข้าค้นหาในพื้นที่บริเวณอาคารถล่มแล้วประมาณ 40% ของพื้นที่ทั้งหมด” ทำให้เกิดความวิตกว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก
“เรากลัวว่าจะมีศพอีกมากติดอยู่ในซากอาคารเพราะการค้นหายังลงไปไม่ถึงส่วนล่างสุด” เจ้าหน้าที่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีคนอยู่จำนวนเท่าใดในพื้นที่ก่อสร้างในช่วงเวลาเกิดเหตุพังถล่ม แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุก่อนหน้านี้ว่า โดยปกติแล้วจะมีคนงานอยู่ประมาณ 50 คน ในไซต์ก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่า ครอบครัวของเหยื่อจะได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 ดอลลาร์ต่อครอบครัว
“โศกนาฏกรรมของเหตุการณ์อาคารพังถล่มใน จ.พระสีหนุเป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับชาติของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของผู้สูญเสีย” ฮุนเซน กล่าว
อาคารหลังดังกล่าวก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 80% ในช่วงที่พังถล่มเมื่อเวลาประมาณ 4.00 น. ของวันเสาร์ (22)
เจ้าของอาคาร หัวหน้าบริษัทก่อสร้างและผู้รับเหมา ทั้งหมดเป็นชาวจีน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาควบคุมตัว ขณะที่เจ้าของที่ดินชาวเขมรถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำเช่นกัน ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ และได้เริ่มกระบวนการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้.