เอเอฟพี - ผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมต่อเรือเวียดนาม ถูกตัดสินโทษจำคุก 13 ปี ฐานฉ้อโกง ตามการรายงานของสื่อทางการ ซึ่งนับเป็นเหยื่อรายล่าสุดของการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้
นายธนาคาร นักธุรกิจ และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่และเกษียณราชการจำนวนมากถูกตัดสินจำคุกในการปราบปรามที่เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2559 หลังคณะบริหารชุดใหม่เข้ากุมอำนาจ และให้คำมั่นว่าจะปราบปรามการทุจริตติดสินบน
ศาลในกรุงฮานอยวันนี้ (12) ได้ตัดสินจำคุกนายเหวียน หง็อก สือ อดีตประธานบริษัทวีนาชิน รัฐวิสาหกิจต่อเรือของเวียดนาม จากการใช้ตำแหน่งและอำนาจในทางมิชอบในการจัดสรรทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังมีนายเจื่อง วัน เตวียน อดีตผู้อำนวยการวีนาชิน และนายฝ่าม แท็ง เซิน อดีตรองผู้อำนวยการ ถูกตัดสินจำคุกจากข้อหาเดียวกันเป็นเวลา 7 ปี และ 6 ปี ตามลำดับ
อดีตเจ้าหน้าที่ทั้งสามถูกตัดสินความผิดจากการนำเงินของบริษัทวีนาชินไปฝากยังธนาคารโอเชียน โดยไม่ได้รับการอนุมัติรับรองจากนายกรัฐมนตรี ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งศาลระบุว่า พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับธนาคารยักยอกเงินเข้ากระเป๋า 4.5 ล้านดอลลาร์
“การกระทำของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก” หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ รายงาน
ขณะเดียวกัน ด้านธนาคารโอเชียนก็พัวพันกับเรื่องอื้อฉาวอยู่ก่อนแล้ว โดยนายธนาคาร และผู้บริหารหลายสิบคนของธนาคารแห่งนี้ถูกตัดสินจำคุกจากการทุจริตและบริหารจัดการอย่างไม่ถูกต้อง รวมถึงอดีตผู้อำนวยการของธนาคาร ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตจากการฉ้อโกงในปี 2560
วีนาชิน เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีค่ามากที่สุดของประเทศ แต่ตกต่ำลงจากการลงทุนที่ผิดพลาดและความขัดแย้งหลายครั้ง จนทำให้กิจการเกือบพังลงในปี 2553 ก่อนที่ทางการจะก้าวเข้ามารักษาไว้
นายเหวียน ฝู จ่อง ประธานาธิบดีและหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ให้คำมั่นที่จะกำจัดการทุจริตคอร์รัปชันในทุกระดับชั้น แต่ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การปราบปรามการคอร์รัปชันที่นายเหวียน ฝู จ่อง เป็นหัวหอกสำคัญนี้ ไม่เคยปรากฏมาก่อนทั้งในแง่ของขอบเขตและขนาด ซึ่งนักวิจารณ์ยังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแรงผลักดันทางการเมือง ที่มุ่งเป้าหมายจะกำจัดฝ่ายตรงข้าม.