เอเอฟพี - เกษตรกรนาเกลือเมืองห่อนขอย (Hon Khoi) ที่ต้องทำงานหนักตั้งแต่รุ่งสาง กำลังเผชิญต่อรายได้ที่ไม่แน่นอน ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามความต้องการที่ผันผวนไปมาตามการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ และรูปแบบสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้มากยิ่งขึ้น
ชาวเวียดนามจำนวนมากในเมืองริมชายฝั่งทะเลที่เงียบสงบของ จ.แค้งฮว่า แห่งนี้ ส่วนใหญ่ทำงานในนาเกลือ สวมหมวกงอบที่เป็นสัญลักษณ์ของเวียดนาม ขนผลึกเกลือในแต่ละแปลงกองรวมสูงเป็นภูเขาด้วยตะกร้าไม้ไผ่
พวกเขาต้องเดินอย่างระมัดระวังไปตามคันนาแคบๆ ที่ใช้แบ่งแปลงนาเกลือออกเป็นแต่ละแปลงซึ่งสูบน้ำทะเลเติมลงไปจนเต็ม
เกษตรกรเหล่านี้กล่าวว่า ชีวิตในนาเกลือนั้นยากลำบาก พวกเขาต้องตรากตรำงานหนักในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวประจำปีที่อยู่ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.
“งานนี้ไม่สนุกเลย เราต้องทำงานกันหนักมากท่ามกลางแสงอาทิตย์และจากนั้นช่วงฤดูหนาวเราจะหยุดพัก” เหวียน แถ่ง ลาย เกษตรกรนาเกลือ ที่ผิวคล้ำจากการทำงานกลางแดดนานกว่า 40 ปี กล่าว
ลาย ขายผลผลิตที่ได้จากนาเกลือให้แก่พ่อค้าท้องถิ่นที่ส่งต่อเข้าสู่ห่วงโซ่คุณค่าจนกระทั่งเกลือเหล่านั้นไปอยู่โต๊ะอาหารหรือโรงงานทั่วเวียดนาม ที่มักถูกใช้เป็นส่วนประกอบในการถนอมปลา ทำน้ำปลา หรือทำโซดา
เหวียน แถ่ง ลาย กล่าวว่า ทั้งความต้องการและราคาตลาดเคยวางใจได้มากกว่านี้
“ในอดีต เราไม่เคยขาดทุนในการผลิตเกลือ เวลานี้มีแต่ขาดทุน” ชายวัย 60 ปี สวมหมวก 2 ชั้นป้องกันแสงแดดแรงกล้า กล่าว
รายได้ของเขาขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการที่ผันผวนตามการนำเข้าจากต่างประเทศ
เวียดนามผลิตเกลือราว 1 ล้านตันในปี 2558 ตามข้อมูลของทางการล่าสุด และมักเกินกว่าความต้องการ แต่ยังคงนำเข้าเกลือที่ส่วนใหญ่มาจากจีนและอินเดีย และในปี 2560 ประเทศนำเข้าเกลือ 500,000 ตัน แม้มีส่วนเกินจากการผลิตภายในประเทศก็ตาม
ผลิตภัณฑ์นำเข้าเป็นความต้องการในด้านคุณภาพสำหรับการใช้ในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งบางอย่างเกลือท้องถิ่นไม่เหมาะที่จะนำไปใช้เสมอไป
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นจากเอเอฟพี
นอกเหนือไปจากความต้องการที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เกษตรกรนาเกลือเวียดนามยังต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกำลังส่งผลกระทบต่อการทำงานในอุตสาหกรรมที่พึ่งความร้อนและแสงแดดเพื่อให้ได้การผลิตที่สูงสุด
“หากอากาศดี เราสามารถทำงานได้ถึง 6 เดือน หากฝนตก เราทั้งหมดคงหิวโซ” เหวียน กว่าง แอ็ง ที่รับจ้างทำงานในนาเกลือมานาน 20 ปี กล่าว
“การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศส่งผลกระทบเพราะการผลิตเกลือต้องการสภาพอากาศที่คงที่” เกษตรกรนาเกลืออายุ 57 ปี กล่าว
สหประชาชาติ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเกษตรกรในเวียดนาม ที่ฤดูฝนมาถึงเร็วขึ้นหรือทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงหลายปีมานี้
“ในเวียดนามหรือที่ไหนๆ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้อากาศแปรปรวน เมื่อคุณไม่สามารถวางแผนอนาคตได้ คุณก็ทำได้แค่หวัง” ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ กล่าว
ทางการเวียดนามให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปภาคส่วนนี้ในปี 2557 และกำหนดแผนการระยะ 15 ปี ที่จะปรับปรุงอุตสาหกรรมให้ทันสมัย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังต่อสู้เช่นแอ็ง
แบบแผนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการผลิตเพิ่มเป็น 3 เท่า ภายในปี 2573 การใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสนับสนุนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน.