xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจรับซื้อผมสาวหม่องโตต่อเนื่อง ส่งออกรายใหญ่อันดับ 4 โลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - แม้จะเต็มไปด้วยความเสียดาย แต่เด็กสาวอายุ 15 ปี ตัดสินใจตัดผมสีดำขลับยาว 12 นิ้ว ของตัวเอง แลกกับเงินราว 13 ดอลลาร์ (ประมาณ 414 บาท) จำนวนเงินที่เทียบได้กับค่าแรงขั้นต่ำต่อสัปดาห์ในประเทศพม่า

เด็กสาวชาวพม่านั่งอยู่ที่ร้านตัดผมในตลาดริมถนนของนครย่างกุ้ง กล่าวว่า เงินที่ได้จากการตัดผมนี้จะนำไปช่วยครอบครัวจ่ายค่าเช่าบ้าน

ในอีกซีกโลกหนึ่ง เส้นผมเหล่านี้จะผ่านกระบวนการและนำไปบรรจุใหม่ในฐานะ “ผมพม่าดิบ” และจำหน่ายในราคาหลายร้อยดอลลาร์ให้แก่ผู้บริโภคที่จะนำเส้นผมเหล่านี้ไปทำเป็นวิกผมหรือผมต่อที่ผลิตขึ้นจากวัสดุที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก

“ผู้คนจากทั่วทั้งโลกต้องการเส้นผมจากประเทศของเรา เพราะเมื่อคุณสระผมด้วยแชมพูและครีมนวด เส้นผมเหล่านี้จะเปล่งประกายราวกับสีของไข่มุก” วิน โก แม่ค้ารับซื้อผมจากคนทั่วไปและผู้จัดส่งรายย่อยเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในตลาดย่างกุ้ง กล่าว

แม้ว่าการค้าเส้นผมมนุษย์เกิดขึ้นมานานหลายร้อยปี แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่พม่าเปิดประเทศสู่โลกภายนอก ชาวพม่าต่างเริ่มคว้าโอกาสทางเศรษฐกิจนี้

เวลานี้พม่านั่งอยู่ใจกลางอุตสาหกรรมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ที่นับตั้งแต่ปี 2553 ปริมาณเส้นผมที่ส่งออกในแต่ละปีเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จนกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก ตามการระบุของสหประชาชาติ และเฉพาะในปี 2560 พม่าทำรายได้จากการส่งออกเส้นผมถึง 6.2 ล้านดอลลาร์ ที่เทียบได้กับน้ำหนักของรถยนต์ 1,160 คัน

การค้าเส้นผมประกอบด้วยผู้คนหลายพันชีวิตทั้งเจ้าของเส้นผม ผู้แปรรูป และผู้ส่งออกผม โดยต้นทางของเส้นผมนั้นทั้งมาจากเจ้าของผมเช่นเด็กหญิงวัย 15 หรือจากการหาซื้อแบบชั่งกิโลในรูปแบบของก้อนผมที่พันกันยุ่งเหยิง

เมื่อนำเส้นผมทั้งหมดที่หาได้มารวมกัน ผมเหล่านี้จะเดินทางจากผู้ค้าไปยังโรงงานเพื่อแยกเส้นผมที่พันกันให้คลายออก และนำไปทำความสะอาดก่อนบรรจุใหม่และส่งออกต่างประเทศ ที่ปลายทางส่วนใหญ่คือประเทศจีน ที่จะถูกผลิตเป็นวิกผมหรือผมต่อ

หลายบริษัทพยายามที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ไร้กฎระเบียบนี้แต่ก็ทำได้ยาก แต่ มิน ซอ อู จากบริษัทเต๊ตเนลิน ธุรกิจค้าเส้นผมที่เริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 2000 ระบุว่า เขาขายเส้นผมส่วนใหญ่ให้แก่ผู้หญิงผิวสีในอังกฤษ ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ และสหรัฐฯ

“กลุ่มคนผิวสีคือตลาดของเรา” มิน ซอ อู กล่าว

ในสื่อสังคมออนไลน์ หากค้นหาด้วยคำว่า “ผมพม่า” บนเว็บไซต์ยูทิวป์จะพบคลิปวิดีโอหลายพันชิ้นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรีวิววิกผมและผมต่อ

“มันไม่นุ่มสลวยเหมือนผมอินเดีย และไม่หนาเหมือนผมบราซิล แต่มันค่อนข้างจะอยู่กึ่งกลาง” บิวตี้บล็อกเกอร์รายหนึ่งกล่าวถึงเส้นผม

แต่อุปสงค์สำหรับเส้นผมพม่ากลับมากกว่าอุปทาน เนื่องจากกระแสแฟชั่นสมัยใหม่ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะได้เส้นผมที่ตรงยาวและไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ตามการระบุของผู้ค้าเส้นผม 2 คน ที่ตระเวนไปทั่วตลาดในเขตอินเส่ง ของนครย่างกุ้ง

“ผมส่วนใหญ่ตอนนี้มักทำสี ดัด และเป็นผมสั้น” เม เม อายุ 44 ปี แม่ค้าที่อยู่ในธุรกิจเส้นผมมานาน 13 ปี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าเส้นผมกล่าวว่า เดือนเมษายนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของธุรกิจ เนื่องจากผู้หญิงจำนวนมากเตรียมที่จะบวชชีและจะขายเส้นผมของพวกเธอก่อนเข้าพิธีโกนศีรษะ

ผมส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากพม่าไม่ใช่ผมที่ตัดจากศีรษะโดยตรง แต่เป็นผมที่ได้จากการเก็บกวาดรวมกัน ซึ่งหนึ่งในเจ้าของธุรกิจค้าเส้นผมกล่าวว่า เธอซื้อเส้นผมจากหวี ซึ่งหลุดร่วงเองตามธรรมชาติ โดยผมที่หลุดร่วงจากการหวีผมนี้เธอให้ราคาราว 55 เซนต์ ต่อผม 1 ออนซ์ (ประมาณ 17.50 บาท ต่อ 28 กรัม) ซึ่งเธอจะนำผมที่ได้ไปจับรวมเป็นมัดก่อนขายให้พ่อค้าคนกลาง

พ่อค้าคนกลางจะเป็นผู้จัดการนำเส้นผมไปขายให้แก่ผู้ซื้อชาวจีนอีกทอดหนึ่ง เช่น วิน โก หนึ่งในพ่อค้าคนกลาง ระบุว่า เขานำเส้นผมขึ้นรถบรรทุกมุ่งหน้าไปยังเมืองมูเซะที่อยู่ติดชายแดนพม่า ซึ่งที่เมืองดังกล่าวจะมีชาวจีนจำนวนมากรอรับซื้อเส้นผมเหล่านี้

“แค่คุณเลือกพ่อค้าคนกลางที่คุณชอบ พวกเขาจะจัดการขายสินค้าของคุณให้แก่ผู้ซื้อชาวจีน” วิน โก กล่าว.









กำลังโหลดความคิดเห็น