xs
xsm
sm
md
lg

เชฟรอนบรรลุข้อตกลงกลุ่มนักลงทุนให้ความสำคัญสิทธิมนุษยชนในพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - บริษัทเชฟรอน (Chevron Corp) จะให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในพม่าภายใต้ข้อตกลงกับกลุ่มนักลงทุนที่ได้เรียกร้องให้บริษัทให้ความสนใจมากขึ้นกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่าที่บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ดำเนินกิจการอยู่

เชฟรอน จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ที่รวมทั้งการทบทวนการลงทุนทางสังคมในรัฐยะไข่ของพม่า การบริจาคให้แก่องค์กรด้านมนุษยธรรมสำหรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา และช่วยพัฒนาแนวทางปฏิบัติสำหรับบริษัทที่ดำเนินการท่ามกลางความเสี่ยงของการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ตามที่ระบุในจดหมายที่ลงนามโดยผู้บริหารบริษัท

บริษัท Azzad Asset Management ที่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของเชฟรอนได้ยื่นมติผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้เชฟรอนรายงานการดำเนินธุรกิจของบริษัทกับรัฐบาลที่มีส่วนในการล้างเผ่าพันธุ์หรือก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เห็นชอบที่จะถอนข้อเรียกร้อง ตามสำเนาข้อตกลงที่รอยเตอร์ได้รับ

“เชฟรอนชื่นชมการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของ Azzad และยกย่องพวกเขาสำหรับการตระหนักถึงการกระทำของเราที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน” เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของเชฟรอน ที่ลงนามในจดหมาย ระบุในถ้อยแถลงทางอีเมล

มติเดียวกันนี้เชฟรอนเคยคัดค้านในที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนหน้า และเมื่อปีก่อน มติดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 7%

โจชัวร์ บร็อคเวลล์ ผู้อำนวยการการสื่อสารการลงทุนของบริษัท Azzad ระบุว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นแสดงถึงความก้าวหน้าเชิงบวกหลังเจรจาอยู่นานหลายปี

รัฐยะไข่ตกเป็นจุดสนใจไปทั่วโลกในปี 2560 เมื่อกองทัพพม่าขับไล่ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 730,000 คน จนชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ต้องอพยพหลบหนีข้ามแดนเข้าไปในฝั่งบังกลาเทศ หลังเหตุการณ์การโจมตีของผู้ก่อความไม่สงบโรฮิงญา สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์

เมื่อเร็วๆ นี้ ทหารยังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กองทัพอาระกัน ที่เกณฑ์กองกำลังส่วนใหญ่จากชาวพุทธชาติพันธุ์ยะไข่ และกำลังต่อสู้เพื่อการปกครองตนเองสำหรับรัฐทางตะวันตกของประเทศ

วา โลน และจ่อ โซ อู นักข่าวรอยเตอร์ ถูกจำคุกมานานกว่า 15 เดือน นับตั้งแต่ถูกจับกุมตัวในเดือน ธ.ค.2560 ขณะสืบสวนเหตุการณ์การสังหารหมู่พลเรือนชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ทหารพม่ามีส่วนเกี่ยวข้อง

เชฟรอน กิจการด้านพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ดำเนินกิจการในพม่าผ่านบริษัทลูกคือ บริษัท Unocal Myanmar Offshore Co ตามที่ระบุบนเว็บไซต์ของเชฟรอน โดยบริษัทยังให้ความสนใจในเรื่องการผลิตก๊าซธรรมชาติและบริษัทวางท่อส่งน้ำมัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น