xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดสมาร์ทโฟนซบเซา ทำเศรษฐกิจเวียดนามไตรมาสแรกชะลอตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) เนื่องจากความต้องการโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอ่อนกำลังลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก ตามการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาล

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวที่ 6.79% ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ชะลอตัวลงกว่าไตรมาสเดือนธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 7.31% และ 7.45% ในไตรมาสแรกของปีก่อน

ภาคการผลิตและแปรรูปขยายตัว 8.63% ขณะที่ภาคบริการเพิ่มขึ้น 6.50% และภาคการเกษตร 2.68% ตามการระบุของสำนักสถิติ

“เศรษฐกิจประเทศยังคงเผชิญต่อความยากลำบากและความท้าทายใหม่ๆ” สำนักงานสถิติระบุในคำแถลง

การส่งออกสมาร์ทโฟน ที่เป็นแหล่งรายได้จากการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า เหลือเพียง 12,050 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2562 นี้

“ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกชะลอตัวลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ และเช่นเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ เวียดนามได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นักวิเคราะห์จากบริษัท KTB Investment & Securities ระบุ

ซัมซุงที่ลงทุนโรงงาน 8 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนาม เป็นมูลค่ามากกว่า 17,300 ล้านดอลลาร์ เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดและมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ

โดยรวมแล้ว การส่งออกของเวียดนามในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ 58,510 ล้านดอลลาร์ แต่ชะลอตัวลงกว่าการขยายตัวตลอดทั้งหมดที่ 24.5% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561

“ความต้องการทั่วโลกที่ลดลงและการชะลอตัวในภาคเทคโนโลยี ส่งผลให้การเติบโตด้านการส่งออกชะลอตัวในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะกระทบต่อการส่งออกในอีก 2-3 ไตรมาสถัดไป” บริษัทวิจัยด้านเศรษฐกิจ ระบุ และคาดการณ์ว่า การเติบโตของปี 2562 และ 2563 จะอยู่ที่ 6.0%

จีดีพีของเวียดนามขยายตัว 7.08% เมื่อปี 2561 นับเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 และเร็วกว่าการขยายตัว 6.81% ของปี 2560

รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ระหว่าง 6.6-6.8% ในปีนี้

ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัวลงในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ 8.85% ในช่วงเดือน ธ.ค. นักวิเคราะห์ระบุว่า เวียดนามอาจได้รับอานิสงส์หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังดำเนินต่อไป เนื่องจากเวียดนามและไทยกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับบริษัทระดับโลกต่างๆ ที่กำลังมองหาการย้ายฐานการผลิต และซัปพลายเชนออกจากจีน.
กำลังโหลดความคิดเห็น