xs
xsm
sm
md
lg

เขมรบอกขอเวลาอย่างน้อย 10 ปี นำพาประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซินหวา - รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชากล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิตอลของกัมพูชายังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้นและจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี ในการพัฒนาเติบโต

ในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเป็นเวลา 2 วัน ในหัวข้อ “นโยบายและทิศทางของเศรษฐกิจดิจิตอลของกัมพูชา” ในกรุงพนมเปญ นายโอน ปวนมุนีรัตน์ รัฐมนตรีของกัมพูชา กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิตอลกำลังค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในประเทศ และกำลังสร้างกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ ในการชำระเงินดิจิตอล ความบันเทิงออนไลน์ และอีคอมเมิร์ซ

“กัมพูชาอาจจำเป็นต้องใช้เวลา 5 ปีแรกในการเตรียมองค์ประกอบพื้นฐานทั้งหมดเข้าด้วยกันหรือเตรียมความพร้อมด้านดิจิตอล และใช้เวลาอีก 5 ปี หรือ 10 ปี ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลเพื่อมุ่งไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจกัมพูชากล่าว

นายโอน ปวนมุนีรัตน์ กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและโครงสร้างพื้นฐานด้านกฎหมายกฎระเบียบเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับเศรษฐกิจดิจิตอล และกัมพูชาจำเป็นต้องเพิ่มความครอบคลุมในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และลดค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ต่ำลง

“เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิตอลมีประสิทธิภาพ ระบบโลจิสติกส์และแพลตฟอร์มการชำระเงินเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ ในขณะที่เครือข่ายโลจิสติกส์และไปรษณีย์ด่วนช่วยให้การแลกเปลี่ยนสินค้าดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยจะยิ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมทางธุรกิจในตลาดดิจิตอล” รัฐมนตรี กล่าว

นายโอน ปวนมุนีรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ กัมพูชาได้พัฒนาแผนแม่บทสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายว่าด้วยการโทรคมนาคม และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาและการดำเนินการกรอบการทำงานทางยุทธศาสตร์ไอซีทีในระยะยาว

นอกจากนั้น กัมพูชาอาจยังต้องปรับปรุงนโยบายภาษี นโยบายแรงงาน และกฎหมายลายมือชื่อดิจิตอล เอกลักษณ์ ข้อตกลงสัญญา และธุรกรรม เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิตอลเกิดขึ้นได้

ในปัจจุบัน มีประชากรราว 13.6 ล้านคน จากทั้งหมด 16 ล้านคนของประเทศ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยส่วนใหญ่ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม นางเอลเลน โกลด์สไตน์ ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำกัมพูชา กล่าวว่า การทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารผ่านอินเทอร์เน็ต และการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเป็นเรื่องใหม่ในกัมพูชา ที่มีประชากรเพียง 1% ที่ใช้โทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตเข้าถึงบัญชีสถาบันการเงินในปี 2559

โกลด์สไตน์ กล่าวว่าในทุกๆ 4 บริษัท พบว่ามีเพียงบริษัทเดียวที่มีเว็บไซต์ และการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (e-Government) ก็มีจำนวนจำกัด

“การก้าวต่อไปข้างหน้า กัมพูชาจำเป็นต้องมีนโยบายเป้าหมายเพื่อเสริมพื้นฐานที่ช่วยให้เศรษฐกิจดิจิตอลสามารถพัฒนาเติบโตได้” โกลด์สไตน์ กล่าว

ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาจำเป็นต้องใช้กฎระเบียบเพื่อปกป้องดูแลการคุ้มครองข้อมูล ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในภาคเอกชนและประชาชนต่อการทำธุรกรรมดิจิตอล และเพื่อพัฒนาและดำเนินการยุทธศาสตร์รัฐบาลดิจิตอลอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวงศรี วิสุทธิ์ ประธานคณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากผู้มีส่วนร่วมทั้งหมดเพื่อที่จะกำหนดทิศทางสำหรับการกำหนดกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของกัมพูชา โดยภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก บริษัทไมโครซอฟท์ อาลีบาบา อาลีเพย์ ยูเนียนเพย์ หัวเว่ย และวีซ่า มารวมตัวกัน ซึ่งทั้งหมดจะร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญของกัมพูชาในประเด็นต่างๆ เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิตอล โครงสร้างพื้นฐานไอซีที การชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ แพลตฟอร์มดิจิตอล บทบาทของบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ และรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์.
กำลังโหลดความคิดเห็น