เอเอฟพี - นักศึกษาชาวพม่า 7 คน ถูกตัดสินจำคุก 3 เดือน พร้อมถูกใช้แรงงานหนัก จากการเผารูปเจ้าหน้าที่ระหว่างชุมนุมประท้วงเกี่ยวกับความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย
นักศึกษาที่ได้รับโทษจำคุกนั้นอยู่ในกลุ่มนักศึกษาหลายสิบคนที่จำลองงานศพขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นที่มหาวิทยาลัยมัณฑะเลย์ในภาคกลางของประเทศ หลังเกิดเหตุฆาตกรรมนักศึกษาใกล้มหาวิทยาลัย
กลุ่มนักศึกษาได้เผาโลงกระดาษ และรูปของมุขมนตรีประจำเมือง รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและมหาดไทย และอธิการบดีมหาวิทยาลัย เพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยรอบสถานศึกษา
นักศึกษา 3 คน ถูกจับกุมระหว่างการชุมนุมประท้วง และนักศึกษาอีก 4 คน ถูกควบคุมตัวในอีกไม่กี่วันต่อมาหลังจากออกไปเดินขบวนเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนของพวกเขา
นักศึกษาทั้ง 7 คน ถูกตัดสินโทษจำคุก 3 เดือน พร้อมกับถูกใช้แรงงานหนัก ฐานชุมนุมประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาตและวางเพลิง ตามการเปิดเผยของ เอ มอน ขิ่น แกนนำนักศึกษา
“พวกเขาจะถูกนำตัวไปยังเรือนจำโอโบ ในเมืองมัณฑะเลย์” เอ มอน ขิ่น กล่าว
ทั้งนี้ เนื่องจากนักศึกษากลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวมาแล้วช่วงหนึ่ง ทำให้ระยะเวลาที่พวกเขาต้องรับโทษนั้นลดลง หมายความว่า พวกเขาจะต้องจำคุกอีกราว 45 วัน
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในหลายตัวอย่างของการตอบโต้อย่างหนักมือของเจ้าหน้าที่ต่อการชุมนุมประท้วง
เมื่อวันอังคาร (12) ตำรวจยิงกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชนในรัฐกะยา ที่ชุมนุมประท้วงต้านอนุสาวรีย์นายพลอองซาน บิดาของนางอองซานซูจี ตำรวจยอมตกลงในค่ำวันอังคารที่จะปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับหลายสิบคนแลกกับการระงับการชุมนุม ขณะเดียวกัน การเจรจาหารือจะเกิดขึ้นภายใน 1 เดือน ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ความเคลื่อนไหวที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างยินดี
“เจ้าหน้าที่พม่ามีประวัติยาวนานของการใช้กำลังรุนแรงและร้ายแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ รัฐบาลจำเป็นต้องยุติการกระทำในลักษณะนี้” ซีอีโอของกลุ่ม Fortify Rights กล่าว.