MGR ออนไลน์ -- อดีตประธานาธิบดีสหรัฐบิล คลินตัน เดินทางเข้ากัมพูชาอย่างเงียบๆเพื่อการท่องเที่ยวเป็นการส่วนตัว ชมเปาะประเทศนี้เปลี่ยนไปมาก มีความมั่นคงปลอดภัย ไม่ลำบากใจที่จะไปเยี่ยมเยือน ต่างกับเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำซึ่งจะไปไหนมาไหนก็ลำบาก เนื่องจากจะต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้อมล้อมคอยกำกับอยู่ตลอดเวลา
กระทรวงแถลงข่าวกัมพูชานำภาพอดีตประธานาธิบดีสหรัฐออกเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี 4 ก.พ.นี้ เป็นภาพที่อดีตผู้นำในชุดไปรเวทง่ายๆ ปรากฏตัวที่บริเวณปราสาทตาพรมในเขตโบราณสถานเมืองพระนคร ถ่ายกับหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่เข้าใจว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดเกี่ยวกับกำหนดการของนายคลินตัน และ ไม่ทราบว่าเป็นภาพถ่ายวันไหน
กระทรวงฯอ้างคำพูดของอดีตผู้นำสหรัฐว่า นึกไม่ถึงกัมพูชาจะน่าสนใจมากขนาดนี้ รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นใจที่ได้ไปเห็น เมื่อก่อนนี้ไม่ว่าจะไปไหนจะมีบรรดาองครักษ์นับร้อยคนคอยติดตาม และ มีคนกล่าวว่ากัมพูชาเต็มไปด้วยวัตถุระเบิดตั้งแต่ครั้งสงคราม ไปไหนจะต้องระมัดระวังไม่ออกนอกเส้นทาง แต่ตอนนี้จะไหนคนเดียวหรือมีผู้ติดตามก็ไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้ว
อดีตผู้นำกล่าวด้วยว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยเพียงพอ สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลกเนื่องจากในปัจจุบันเป็นยุคแห่งสันติภาพ มีความสงบอยู่ทั่วไป
อย่างไรก็ตามในภาพแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งติดตามอดีตปธน.สหรัฐไปด้วย โดยเข้าใจกันว่าเป็นทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ กฎหมายของสหรัฐบัญญัติจะต้องให้การอารักขา คุ้มครองทั้งผู้นำและอดีตผู้นำกับครอบครัว ถึงแม้จะพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไปแล้วก็ตาม
เป็นชาวอาร์คัสซอโดยกำเนิด เกิดและเติบโตที่นั่น เรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ได้ทุนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (สหราชอาณาจักร) และ กลับไปสำเร็จกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเยล เป็นอดีตผู้ว่าการมลรัฐอาร์คันซอ 2 สมัย ต่อมาได้รับเลือกเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่ออายุเพียง 46 ปี กลายเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดอันดับสามในประวัติศาสตร์
นายคลินตันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี 2 สมัยติดต่อกันโดยสังกัดพรรคดีโมแคร็ต สืบต่อจากอดีต ปธน.จอร์ เอช ดับลิว บุช แห่งพรรครีปับลิกัน -- คือ ระหว่างปี 2536-2544 อันเป็นยุคสมัยที่สหรัฐเริ่มปรับปรุงความสัมพันธ์กับเวียดนาม เริ่มมีการยกเลิกเอ็มบาร์โกด้านการค้า การเมืองและการทหารมาเป็นลำดับ ปูทางให้แก่การระยกระดับความสัมพันธ์ทุกด้านให้เป็นปรกติ
นายคลินตัน เดินทางเยือนเวียดนามในเดือน พ.ย.2543 กลายเป็นผู้นำสหรัฐคนแรกที่ไปเยือนประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี่้ นับตั้งแต่สงครามยุติลงในปี 2518
อย่างไรก็ตามไม่ปรากฎว่านายคลินตันเคยเดินทางเข้ากัมพูชามาก่อน แต่นางฮิลลารี คลินตัน ภริยาเคยเยือนประเทศนี้อย่างเป็นทางการ ในเดือน ก.ค.2555 ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ในรัฐบาลบารัค โอบามาสมัยแรก
นางคลินตันเยือนกัมพูชาหลังจากไปเยือน สปป.ลาว และ กลายเป็น รมว.ต่างประเทศสหรัฐคนแรกที่ไปเยือนประเทศนี้ในรอบเกือบ 60 ปี นับตั้งแต่นายจอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส อดีต รมว.ต่างประเทศคนหนึ่ง ไปเยือนเวียงจันทน์เมื่อปี 2498.