xs
xsm
sm
md
lg

นักข่าวพม่าสู้ต่อยื่นอุทธรณ์ศาลสูงสุด กลุ่มสิทธิฯ ติงเสรีภาพยุครัฐบาลซูจีย่ำแย่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ขิ่น หม่อง ซอ ทนายความของ 2 นักข่าวชาวพม่าที่ทำงานให้กับรอยเตอร์.

รอยเตอร์ - ทนายความของสองนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกจำคุกในพม่าจากการละเมิดกฎหมายความลับราชการ ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินยังศาลฎีกาในวันนี้ (1) ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า รัฐบาลใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าปราบปรามนักวิจารณ์

การอุทธรณ์ที่อ้างถึงหลักฐานการจัดฉากของตำรวจ และการขาดหลักฐานของอาชญากรรม มีขึ้นในเวลาเดียวกับที่ฮิวแมนไรท์วอช กล่าวว่า รัฐบาลของนางอองซานซูจี กำลังทำลายความหวังของการเป็นผู้นำประชาธิปไตยคนแรกของประเทศในรอบหลายสิบปีที่ปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็น

“คำอุทธรณ์ของเราคือ ขอให้ศาลฎีกาให้ความยุติธรรมแก่ วา โลน และ จ่อ โซ อู กลับคำพิพากษาที่ผิดพลาดของศาลล่าง และสั่งปล่อยตัวนักข่าวของเรา” รอยเตอร์ระบุในคำแถลง

วา โลน อายุ 32 ปี และจ่อ โซ อู อายุ 28 ปี ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 7 ปี เมื่อเดือน ก.ย. ในคดีสำคัญที่ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการมุ่งไปสู่การเป็นประชาธิปไตยของพม่า และนำมาซึ่งความไม่พอใจในหมู่นักการทูตและผู้สนับสนุนส่งเสริมสิทธิมนุษยชน

ในวันเดียวกันนี้ (1) พม่าได้ปล่อยตัวนายตำรวจที่ให้การต่อศาลเมื่อปีก่อนถึงวิธีการที่เจ้าหน้าที่วางแผนมอบเอกสารลับให้แก่นักข่าวเพื่อวางกับดักจับกุมนักข่าว

“กฎหมายวินัยตำรวจฉบับนี้เป็นหนึ่งในกฎหมายที่เราต้องแก้ไข ขณะที่เรากำลังก้าวเดินอยู่บนเส้นทางที่มุ่งสู่ประชาธิปไตย” โม ยาน นาย กล่าววิพากษ์วิจารณ์กฎหมายฉบับที่ทำให้เขาถูกลงโทษกับบรรดานักข่าวนอกเรือนจำอินเส่ง ชานนครย่างกุ้ง หลังได้รับการปล่อยตัว

“กฎหมายนี้สามารถทำให้ตำรวจต้องทุกข์ทรมานเพราะความล้าสมัย” โม ยาน นาย กล่าว

เมื่อนักข่าวสอบถามถึงความรู้สึกถึงคนที่สั่งจับกุม ร.ต.อ.โม ยาน นาย กล่าวว่า เขาจะพึ่งศาสนาเยียวยาความรู้สึกของเขา

“ผมเป็นชาวพุทธ ผมสามารถหาความสงบสุขด้วยวิธีทางพุทธศาสนา” นายตำรวจ กล่าว และระบุว่า เขารู้สึกเสียใจที่ 2 นักข่าวยังอยู่ในคุก

ฮิวแมนไรท์วอชระบุในรายงานว่า เสรีภาพในการแสดงออกลดน้อยถอยลงนับตั้งแต่รัฐบาลของอองซานซูจีเข้าบริหารประเทศในปี 2559 ที่การฟ้องร้องดำเนินคดีได้สร้าง “บรรยากาศแห่งความหวาดกลัว” ในหมู่นักข่าว

“อองซานซูจี และพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยให้คำสัญญาถึงพม่าโฉมใหม่ แต่รัฐบาลยังคงดำเนินคดีต่อการแสดงออกและการประท้วงอย่างสันติ และล้มเหลวที่จะทบทวนแก้ไขกฎหมายเก่าเหล่านั้น” ผู้เขียนรายงานระบุในคำแถลง

“รัฐบาลอองซานซูจีมีโอกาสที่จะทำลายเครื่องมือที่รัฐบาลเผด็จการทหารใช้กดขี่ข่มเหง แต่กลับใช้เครื่องมือเหล่านั้นเสียเองกับนักวิจารณ์ และผู้ชุมนุมประท้วงที่สงบสันติ” รายงานของฮิวแมนไรท์วอช ระบุ

ซูจี กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การจำคุกนักข่าวรอยเตอร์ไม่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออก ทั้งคู่ได้รับโทษเนื่องจากการครอบครองเอกสารทางการ ไม่ได้ถูกจำคุกเพราะเป็นนักข่าว

ก่อนการจับกุม นักข่าวทั้งคู่กำลังทำงานให้แก่รอยเตอร์ในการสืบสวนเหตุสังหารชายชาวมุสลิมโรฮิงญา 10 คน โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงและพลเรือนชาวพุทธในรัฐยะไข่ ระหว่างการปราบปรามของกองทัพที่เริ่มขึ้นในเดือน ส.ค.2560

ปฏิบัติการของทหารส่งผลให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ ตามการประเมินของสหประชาชาติ

เมื่อเดือนก่อน ศาลสูงปฏิเสธคำอุทธรณ์เบื้องต้นเกี่ยวกับคำพิพากษาตัดสินของนักข่าว โดยกล่าวว่า พวกเขาปฏิบัติตัวในทางที่แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาจะทำร้ายประเทศ

ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงคำตัดสินดังกล่าวว่า เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจอย่างมาก และแสดงให้เห็นว่าศาลพม่าล้มเหลวในการทดสอบขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย

ในการอุทธรณ์เบื้องต้น ทนายจำเลยยังยืนยันว่า ศาลล่างพิจารณาคดีอย่างไม่ถูกต้องด้วยการผลักภาระการพิสูจน์ให้แก่ฝ่ายจำเลย ส่วนอัยการล้มเหลวที่จะพิสูจน์ว่านักข่าวรวบรวมข้อมูลลับ ส่งข้อมูลให้แก่ศัตรู หรือเจตนาที่จะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติ.
กำลังโหลดความคิดเห็น