รอยเตอร์ - สหประชาชาติเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าอนุญาตการเข้าถึงด้านมนุษยธรรม “อย่างรวดเร็วและไม่ถูกขัดขวาง” ยังรัฐยะไข่ พื้นที่ที่การสู้รบระหว่างกองกำลังทหารของรัฐบาลและกบฏที่เรียกร้องการปกครองตนเองทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องพลัดถิ่น
รัฐบาลรัฐยะไข่ออกประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนขัดขวางมิให้เอ็นจีโอ และหน่วยงานของสหประชาชาติเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ชนบทใน 5 เมือง ในตอนเหนือและตอนกลางของรัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ยกเว้นคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ และโครงการอาหารโลก
ประธานาธิบดีพม่าเรียกร้องให้ทหาร “บดขยี้” กบฏกองทัพอาระกัน ระหว่างการประชุมหารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน การสู้รบที่เกิดขึ้นส่งผลให้ประชาชนราว 5,000 คน ต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือนและเข้าพักอาศัยตามวัดวาอาราม และพื้นที่ชุมชนทั่วรัฐนับตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. ตามการระบุของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ
“เราวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับข้อจำกัดใหม่ในการเข้าถึงด้านมนุษยธรรม ที่ทำให้ผู้หญิง เด็ก และผู้ชายหลายพันคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบของรัฐยะไข่ ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและความคุ้มครองป้องกันที่เพียงพอ” ปิแอร์ เปรอง โฆษกสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าว
“เราหวังว่ารัฐบาลจะตอบสนองในเชิงบวกต่อการเรียกร้องของเรา สำหรับการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างรวดเร็วและไม่ถูกขัดขวาง และรับประกันการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” ปิแอร์ เปรอง กล่าว
มุขมนตรีรัฐยะไข่กล่าวกับรอยเตอร์ว่า การจำกัดการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมถูกกำหนดขึ้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
“เราไม่รู้ว่านานเท่าใด การเข้าถึงจะได้รับอนุญาตอีกครั้งเมื่อไม่มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยอีก” มุขมนตรี กล่าว
ในปี 2560 รัฐยะไข่เป็นพื้นที่ที่ทหารดำเนินการปราบปรามอย่างหนัก หลังกลุ่มติดอาวุธมุสลิมโรฮิงญาเปิดฉากโจมตี จนส่งผลให้ชาวโรฮิงญาราว 730,000 คน ต้องอพยพหลบหนีข้ามแดนไปบังกลาเทศ
กองทัพอาระกัน กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ กำลังเรียกร้องการปกครองตนเองจากรัฐบาลกลางสำหรับรัฐยะไข่ ที่ประชากรส่วนใหญ่ในรัฐเป็นชาวพุทธชาติพันธุ์ยะไข่
กองทัพอาระกันสังหารตำรวจไป 13 นาย และได้รับบาดเจ็บ 9 นาย จากการโจมตีสถานีตำรวจ 4 แห่ง เมื่อต้นเดือน ม.ค. ตามการรายงานของสื่อทางการ
โฆษกกองทัพอาระกันที่อยู่นอกประเทศกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กลุ่มโจมตีกองกำลังรักษาความมั่นคงเพื่อตอบโต้การโจมตีของทหารในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐที่มุ่งเป้าพลเรือน
รัฐบาลพม่าต้องสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่แสวงหาการปกครองตนเองหลากหลายกลุ่ม นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ แม้มีบางกลุ่มบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม.