เอพี - สมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ถูกยุบพรรคไปของกัมพูชาแสดงท่าทีแตกแถวไปจากบรรดาเพื่อนร่วมพรรค และกลายเป็นสมาชิกฝ่ายค้านคนแรกที่รับข้อเสนอของรัฐบาลเพื่อยกเลิกการห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมทางการเมือง
กง กอม เป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคกู้ชาติกัมพูชา 118 คน ที่ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เมื่อศาลสั่งยุบพรรคเมื่อเดือน พ.ย.2560 จากข้อกล่าวหาว่าพรรคสมคบคิดกับสหรัฐฯ ที่จะโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งศาลกัมพูชาถูกมองอย่างกว้างขวางว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
ผลของการยุบพรรค ทำให้สมาชิกรัฐสภาของพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดสูญเสียตำแหน่งที่ได้มาจากการเลือกตั้ง และยังกำจัดความท้าทายที่แท้จริงต่อพรรคประชาชนกัมพูชา ที่เป็นพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีก่อน ที่พรรครัฐบาลกวาดที่นั่งในสภาไปได้ทั้งหมด
หลังจาก กง กอม ยื่นหนังสือในวันพุธ (9) กง บุรา ลูกชายของกง กอม ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอยกเลิกการห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองของตนเองเช่นกัน ซึ่งหนังสือที่ยื่นไปนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติรับรองจากกระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ กษัตริย์สีหมุนี เพื่อทรงทราบและเห็นชอบ
การยื่นหนังสือของสมาชิกฝ่ายค้านครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่ลงรอยระหว่างสองกลุ่มในพรรคที่ภักดีต่ออดีตหัวหน้าพรรค 2 คน คือ สม รังสี และแกม สุขา ซึ่งในปี 2555 ทั้งคู่ได้จับมือรวม 2 พรรคเป็นพรรคเดียวเพื่อแข่งขันกับฮุนเซน
สม รังสี ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศมานานกว่า 3 ปี เพื่อเลี่ยงโทษจากคดีหมิ่นประมาทที่ถูกมองว่าเป็นแรงจูงใจทางการเมือง ขณะที่แกม สุขา ถูกจำคุกเพื่อรอรับการพิจารณาคดีตั้งแต่ปลายปี 2560 ในข้อหาเดียวกันกับที่นำไปสู่การยุบพรรค
สม รังสี และผู้สนับสนุนของเขา คัดค้านการยื่นหนังสือเพื่อขอยกเลิกการห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง
กง กอม อายุ 77 ปี และลูกชายของเขาเป็นแนวร่วมฝ่ายแกม สุขา ซึ่ง กง กอม นั้นเคยรับราชการในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเป็นระยะเวลาสั้นๆ ภายใต้รัฐบาลฮุนเซน ในช่วงทศวรรษ 1980 ก่อนเข้าร่วมกับพรรคแรกของสม รังสี คือ พรรคแห่งชาติเขมร เมื่อครั้งพรรคก่อตั้งในปี 2538 อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เขาได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงอดีตเพื่อนร่วมพรรคอย่างหนัก
กฎหมายกัมพูชาที่ถูกปรับแก้ใหม่ อนุญาตให้ฟื้นสถานะนักการเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลฮุนเซนที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกที่กล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับปราบปรามสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
สหรัฐฯ และเยอรมนีกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางการทูตบางอย่างกับกัมพูชา นอกจากนั้น ทั้งวอชิงตัน และสหภาพยุโรปได้ขู่ที่จะขยายการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ที่เป็นผลจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน ก.ค. ที่นักวิจารณ์กล่าวว่าไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมเพราะขาดซึ่งฝ่ายค้านที่น่าเชื่อถือ
รัฐบาลฮุนเซนได้ตั้งเงื่อนไขบางอย่างสำหรับการฟื้นคืนสิทธิทางการเมืองที่นักการเมืองฝ่ายค้านบางส่วนปฏิเสธ
นักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนที่ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง ได้หลบหนีไปจากกัมพูชาด้วยกลัวว่าอาจถูกจับกุม และการฟื้นสิทธิทางการเมืองของพวกเขาในช่วงนี้ดูเหมือนจะได้เพียงแค่ความว่างเปล่าในเวทีการเมือง และไม่มีการรับประกันว่าการดำเนินการทางกฎหมายรอบใหม่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาอีก.