ซินหวา - กัมพูชายังรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่งหลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค. ที่มอบชัยชนะให้แก่พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่เป็นพรรครัฐบาล ชนะทุกที่นั่งในสภาจากการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว หลังจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคเมื่อเดือน พ.ย.2560 และสมาชิกของพรรคฝ่ายค้าน 118 คน ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
การยุบพรรค CNRP เกิดขึ้นหลังนายแกม สุขา หัวหน้าพรรค ถูกจับกุมตัวและถูกตั้งข้อหากบฏจากข้อกล่าวหาวางแผนสมคบคิดกับต่างชาติพยายามโค่นล้มรัฐบาล
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดาแรงงานโรงงานสิ่งทอหลายพันชีวิตใน จ.กันดาล เมื่อวันพุธ (26) ผู้นำเขมร กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศมีความมั่นคงอย่างมากหลังการเลือกตั้ง
“จากการลงคะแนนเสียงให้แก่พรรคประชาชนกัมพูชา ประชาชนได้เลือกสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนถาวร” ฮุนเซน กล่าว
พาย สีพัน โฆษกคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้เป็นไปด้วยดี ทั้งชีวิตและกิจกรรมทางธุรกิจดำเนินไปอย่างเป็นปกติหลังการเลือกตั้ง ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 ในปี 2561
“นับตั้งแต่การเลือกตั้งเดือน ก.ค. ถึงตอนนี้ สถานการณ์ทางการเมืองมีความมั่นคงอย่างมาก และกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดดำเนินไปอย่างเป็นปกติ และในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่าเสถียรภาพทางการเมืองยังคงมั่นคงภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน” พาย สีพัน กล่าว
เจียง วันนะริธ รองประธานสถาบันการศึกษายุทธศาสตร์กัมพูชา กล่าวว่า การเมืองและบรรยากาศทางธุรกิจหลังการเลือกตั้งค่อนข้างมั่นคงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาหลังการเลือกตั้งในปี 2556
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. รัฐสภาเขมรได้ปรับแก้กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองเพื่ออนุญาตให้นักการเมืองฝ่ายค้านที่ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมืองสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อีกครั้ง
ภายใต้กฎหมายที่ปรับแก้ใหม่ นักการเมืองมีสิทธิที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์นโรดม สีหมุนี ตามที่นายกรัฐมนตรีทูลขอพระราชทานได้
“ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม และเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงให้แข็งแกร่ง รวมถึงการสร้างความปรองดองแห่งชาติด้วย” พาย สีพัน กล่าว
เจียม เยียบ สมาชิกพรรค CPP กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายมีเป้าหมายเพื่อฟื้นอาชีพทางการเมืองของบุคคลจากพรรคการเมืองใดๆ ก็ตามที่ถูกห้ามจากการเข้าร่วมทางการเมือง
เจียง วันนะริธ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายเป็นความเคลื่อนไหวเชิงบวกต่อความปรองดองและความเป็นหนึ่งเดียวกันในชาติ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสันติภาพ และการพัฒนาประเทศ.