xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามเดินเครื่องโรงกลั่นใหญ่ที่สุดในประเทศ ผลิตเชิงพาณิชย์ลดพึ่งพานำเข้าน้ำมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วีเอ็นเอ็กซ์เพรส/เตื่อยแจ๋ - โรงกลั่นหงิเซิน (Nghi Son) โรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าโรงกลั่นแห่งที่ 2 ของประเทศแห่งนี้ จะตอบสนองความต้องการน้ำมันปิโตรเลียมภายในประเทศได้ถึง 40% ในปี 2562

นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ที่ร่วมเป็นประธานในพิธียังได้กล่าวย้ำถึงบทบาทสำคัญของโครงการนี้ โดยระบุว่า โรงกลั่นจะช่วยรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานของชาติ และมีความสำคัญต่อการพัฒนาชาติในแง่ของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและการป้องกัน

โรงกลั่นหงิเซิน จะแปรรูปน้ำมันดิบ 200,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงเฟสแรก หรือเทียบเท่ากับ 10 ล้านตันต่อปี ซึ่งมีกำลังการผลิตมากกว่าโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต ที่เป็นโรงกลั่นแห่งแรกของประเทศถึง 2 เท่า

โรงกลั่นแห่งที่ 2 ของประเทศนี้ ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจหงิเซิน จ.แท็งฮว้า ห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตร และคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ถึง 80% ของขีดความสามารถของโรงกลั่นในปีหน้า

ตามการระบุของคณะกรรมการประชาชนจังหวัดแท็งฮว้า เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โรงกลั่นแห่งนี้สามารถกลั่นน้ำมันดิบเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ ได้ถึง 10 ชนิด เช่น ก๊าซ LPG เบนซิน 92 เบนซิน 95 ดีเซล และน้ำมันก๊าด และจนถึงเดือน ธ.ค. โรงกลั่นแห่งนี้กลั่นน้ำมันดิบไปแล้วประมาณ 5 ล้านตัน

ด้วยกำลังการผลิตจากทั้งโรงกลั่นหงิเซิน และโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต คาดว่าโรงกลั่นทั้ง 2 แห่ง จะรองรับความต้องการน้ำมันปิโตรเลียมภายในประเทศได้ถึง 80-90% ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ

โรงกลั่นมูลค่า 9,000 ล้านดอลลาร์ มีผู้ถือหุ้นร่วมทุนในโครงการคือ บริษัทปิโตรเวียดนาม 25.1% บริษัทอิเดมิตสุ โคซาน ของญี่ปุ่น และบริษัทคูเวต ปิโตรเลียม อินเตอร์เนชันแนล ถือฝ่ายละ 35.1% และบริษัทมิตซุย เคมีคอล ของญี่ปุ่น ถือส่วนที่เหลือ 4.7%

ผู้นำเวียดนาม กล่าวว่า โรงกลั่นหงิเซินเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างประเทศที่ได้รับความสนใจและการสนับสนุนอย่างเป็นพิเศษจากรัฐบาลเวียดนาม และหุ้นส่วนสำคัญของประเทศทั้งญี่ปุ่น และคูเวต.

กำลังโหลดความคิดเห็น