xs
xsm
sm
md
lg

เวียดบ่นกันอุบช้างเผือกหายไปไหน.. ทำไมไม่ลงอาบน้ำอุ่นให้เห็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ไกลแค่ไหนเราก็จะตามไปดู -- แต่นี้ไปคงได้เห็นกันแต่ภาพเก่าๆ เหตุการณ์ที่หญิงสาวชาวไตลงอาบน้ำอุ่นในลำธาร ในเขต อ.หม็อกเจิว (Mộc Châu ) จ.เซินลา (Sơn La) แบบนี้ ในชีวิตจริงคงจะหาดูไม่ได้อีก ซึ่งก็ไม่ต่างกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นทั้งที่อยู่ใกล้และไกล เพราะหลายปีมานี้ มีคนแปลกหน้าตามไปรบกวนตลอด.

MGR ออนไลน์ -- ชาวเวียดนามที่เพิ่งกลับจากเดินทางท่องเที่ยวทางภาคเหนือในช่วงวันหยุด บ่นกันว่าปีนี้ไม่มีสาวๆ ชาวไตลงอาบน้ำอุ่นให้ได้เห็นอีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนให้ผิดหวัง แต่หลายคนบอกว่าปีที่แล้วผ่านไปก็ไม่เห็น ยิ่งกว่านั้นก็คือ มีบางคนเขียนว่า "ช้างเผือก" อพยพหลบลี้หนีหน้าไปหมดแล้ว เพราะถูกชาวเมืองรบกวนหนักตลอดหลายปีมานี้

การอาบน้ำอุ่นในฤดูนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นฤดูใหม่ ที่ปฏิบัติกันมาหลายชั่วอายุคน โดยเชื่อกันว่าจะช่วยให้มีสุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง หมดทุกข์หมดโศกไปพร้อมกับปีที่กำลังจะสิ้นสุดลง และ .. สำคัญที่สุดก็คือ จะมีอะไรดีเท่ากับได้อาบน้ำอุ่นๆ ในท่ามกลางอากาศที่เริ่มหนาวเย็นลง

และเมื่อฤดูใบไม้ร่วงผ่านในเวลาสั้นๆ ฤดูหนาวก็จะคืบเข้ามาแทนที่ กลายเป็นฤดูแห่งการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เตรียมรับอากาศหนาวเย็น นอกจากนั้นก็ยังเป็นฤดูแห่งการแต่งงาน ออกเรือน และไปเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกล หรือเดินทางไปกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษ หรือ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่สมาชิกในครอบครัวผู้ล่วงลับ

นอกจากนั้น ก็ยังเป็นฤดูแห่งเทศกาล .. เป็นช่วงเวลาแห่งการลั่นกลอง ตีฆ้องร้องป่าว เต้นรำ กับการละเล่นต่างๆ เป็นฤดูแห่งการเฉลิมฉลองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดของชาวอี้ กับชาวเอเด ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง ..

ทุกคนกำลังพูดถึงประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์หลายๆ กลุ่มในจังหวัดทางตอนบนของประเทศ ในเดือนที่เป็นช่วงรอยต่อ -- นั่นคือช่วง พ.ย.-ธ.ค.ของทุกปีเมื่อกระแสน้ำในลำธารลดลง สาวๆ จะพากันไปลงอาบน้ำอุ่น ตามโป่งน้ำพุร้อนที่น้ำใสสะอาด ก่อนที่ระดับน้ำจะลดลงมากกว่านี้ จนแห้งหายไปพร้อมกับฤดูพายุ กลายเป็นโป่งน้ำร้อนขึ้นมาแทนที่ ซึ่งจะลงอาบลงว่ายไม่ได้อีก

ปีหนึ่งจะมีโอกาสได้อวดผิวกายสวยสะอาดๆ ก็ในยามนี้ ผู้ที่ผ่านไปพบจึงเรียกสาวๆ กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้เป็น "ช้างเผือกในป่าใหญ่" บ้างก็เรียกเป็น "กล้วยไม้บนดอย" และ บางคนเรียกพวกเธอเป็น "มณีพฤกษา" ที่ล้ำค่ายิ่ง
.
ภาพถ่ายเมื่อหลายปีก่อน และ คงจะกลายเป็นภาพเหตุการณ์ในตำนาน.
.
ภาพที่เผยแพร่ในสื่อภาษาเวียดนามหลายปีก่อน แสดงให้เห็นหญิงสาวชาวไต ทั้งสาวใหญ่และสาวรุ่นกำดัด นุ่งกระโจมอกลงดำผุดดำว่ายในธารน้ำใส สนุกสนานและร่าเริงเป็นธรรมชาติ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่พวกเธอจะออกอาการเขินอาย เมื่ออยู่ท่ามกลางสายตาของคนแปลกหน้าที่ผ่านไปพบ

นักท่องเที่้ยวหลายคนบอกว่าเป็นบรรยากาศที่หาดูได้ยากยิ่ง หลายคนมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องโป๊ หรือ ลามกอนาจาร หากเป็นการแสดงออกของการธำรงขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ตามรายงานของสื่อทางการ กลุ่มชาติพันธุ์ในเวียดนามหลายกลุ่ม ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบสูงตอนเหนือของเวียดนาม ต่างก็สืบประเพณีอาบน้ำอุ่นคล้ายกันนี้ ทั้งชาวม้ง ชาวเย้า ชาวเหมื่อง ซึ่งกระจายอันอยู่ในหลายจังหวัด ตั้งแต่ ฟู้เถาะ (Phú Thọ) ที่อยู่ติดกรุงฮานอย ใน จ.เอียนบ่าย (Yên Bái) ที่อยู่ถัดขึ้นไป จนถึงเขตเขาใน จ.หล่าวกาย (Lào Cai) ติดชายแดนจีนมณฑลหยุนหนัน

ไกลขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือใน อ.หม็อกเจิว (Mộc Châu) เขตที่ราบสูงอันสวยงาม ของ จ.เซินลา (Sơn La) และ ใน จ.เดียนเบียน (Điện Biên) ติดชายแดนลาว จนถึงตอนเหนือสุดติดชายแดนจีน ใน จ.ลายเจิว (Lai Châu) เป็นถิ่นของชาวไตดำ ไตขาว กับชาวไตแดงจำนวนมาก

ทุกกลุ่มได้ตกเป็นเป้าสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ใคร่รู้ และ ตามไปเสาะแสวงหา ซึ่งไม่ว่าไกลแค่ไหนก็จะตามไปดู
.
สองสาวชาวเย้าลงธารน้ำอุ่น ที่หมู่บ้านตูเล (Tu Le) อ.วันเจิ๊น (Văn Chấn) จ.เอียนบ่าย (Yên Bái) ผลัดกันขัดสีฉวีวรรณ รับการกลับมาของฤดูหนาว สิ่งนี้กำลังจะกลายเป็นอดีต.
.
มีชาวไตจำนวนไม่มากอาศัยอยู่ใน จ.ฟู้เถาะ (Phú Thọ) -- สาวๆที่นั่นลงลำธารอาบน้ำใสๆในช่วงต้นฤดูหนาว. -- ภาพ: Dulichgo.
.
สองสาววัยกำดัดชนชาติไตลงอาบน้ำอย่างเขินอาย ในธารน้ำอุ่นใกล้หมู่บ้าน ใน จ.ฟู้เถาะ (Phú Thọ) ที่นี่ใกล้กับฮานอยมากที่สุด เป็นแหล่งที่ ช้างเผือก ถูกรบกวนมากที่สุด.
.
ช้างเผือก เพิ่งจะขึ้นจากธารน้ำใกล้หมู่บ้าน ในเขตที่ราบสูงหม็อกเจิว (Mộc Châu ) จ.เซินลา (Sơn La) กว่า 200 กม.ทางตอนเหนือกรุงฮานอย -- ไกลแค่ไหนเราจะตามไปส่อง.
.
ยังมีชนชาติไตจำนวนหนึ่ง อาศัยอยู่ใน จ.ลังเซิน (Lạng Sơn) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดเขตแดนมณฑลกว่างซีของจีน
ซึ่งหลายปีมานี้่ได้เป็นเป้าหมาย ที่คนแปลกหน้าตามไป "รบกวน" มากที่สุด เพื่อจะได้เห็นสาวๆ ลงเล่นน้ำในลำธารใกล้บ่อน้ำพุร้อน อวดผิวขาวๆ ที่ห่อเอาไว้อย่างดีตลอดทั้งปี

ปัจจุบันถนนเส้นใหม่ๆ ตัดเข้าไปถึงทุกพื้นที่ของประเทศ เขตชนบทห่างไกลที่เคยเงียบสงบ วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ผู้คนต่างถิ่นเข้าถึง และ หลังจากข่าวช้างเผือกในป่าภาคเหนือเวียดนามลงอาบน้ำแพร่ออกไป ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ทุกปี ก็จึงมีผู้คนนับหมื่นก็หลั่งไหลเข้าไป -- ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น -- กลายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ โดยไม่มีใครใส่ใจความรู้สึกของผู้ที่เป็นเจ้าของวัฒนธรรม

ตามรายงานของซเวินเหวียดออนไลน์ (Dan Viet Online) การรบกวนของคนแปลกหน้า ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ต้องปรับตัว การท่องเที่ยวที่คนในพื้นที่ไม่ได้รับประโยชน์ ยังเป็นตัวบ่อนทำลายขนบธรรมเนียมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคน -- ก็จึงไม่มีใครได้เห็นสาวๆ ใส่กระโจมอกลงเล่นน้ำให้เห็นอีกแล้ว

นอกจากจะไม่ได้เห็นการดำผุดดำว่าย และ การขัดถูผิวกายด้วยหินชนวนเช่นเมื่อครั้งกระโน้น ที่นั่นก็ไม่มีอะไรเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้คนแปลกหน้าได้เห็นแต่สาวแก่แม่หม้ายลงเล่นน้ำ คนสมัยใหม่ฟอกกายด้วยสบู่ สระผมด้วยแชมพู ได้เห็นฟองขาวลอยฟ่องไปตามกระแสน้ำแทน

แต่ .. "เราเชื่อว่าประเพณีนี้ยังคงอยู่ เพื่อความปลอดภัย หญิงสาวชาวไต จึงต้องหาสถานที่เฉพาะ หาลำธารสายใหม่ที่ไกลตาผู้คนมากขึ้น สำหรับการลงเล่นน้ำครั้งแรกในรอบปี" ผู้สื่อข่าวออนไลน์รายงาน.
กำลังโหลดความคิดเห็น