MGR ออนไลน์ -- รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตกลงร่วมกันจัดร่างเอกสารอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลฝรั่งเศสขอความร่วมมือในเรื่องแผนที่ เอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดนในยุคอาณานิคม ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแก้ปัญหาพิพาทพรมแดนระหว่างสองประเทศ ตามที่ได้หารือกันเมื่อปีที่แล้ว
สองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันจัดร่างเอกสารสำคัญดังกล่าว อันเป็นผลจากการพบเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน กับ นรม.ลาวนายทองลุน สีสุลิด ที่มีขึ้นในนครเวียงจันทน์ตอนเช้าวันพุธ 5 ธ.ค.นี้ เป็นวันแรกของการเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วันโดยผู้นำกัมพูชา
"สองฝ่ายได้เห็นพ้องกันมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศ ร่วมกันจัดทำร่างเอกสารทางเทคนิคดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้จนถึงพรุ่งนี้ เพื่อส่งให้แก่ฝ่ายฝรั่งเศส.." นรม.กัมพูชาระบุระหว่างแถลงข่าวร่วมกับผูุ้นำลาว ภายหลังการพบเจรจาตอนเช้าวันเดียวกัน
ในขั้นตอนแรก กัมพูชากับลาวจะร้องขอไปยังทางการฝรั่งเศสเกี่ยวกับส่งแผนที่ชายแดนระหว่างสองประเทศ ทั้งมาตราส่วน 1:100000 และ 1:50000 เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการประชุมแก้ไขพรมแดนพิพาท ขั้นตอนต่อไปจึงจะร้องขอหลักฐานเอกสารสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับชายแดนกัมพูชา-ลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมาณ 16% ของแนวชายแดนทั้งหมด ที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
ผู้นำทั้งสองประเทศได้เรียกร้องไปยังประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ รัฐบาลฝรั่งเศส ขอการสนับสนุนและจัดส่งแผนที่กับเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับชายแดน โดยสองผู้นำมีความปรารถที่จะให้ปัญหาชายแดนได้รับการแก้ไข ในทันทีที่คณะกรรมการชายแดนของสองฝ่ายเปิดประชุมครั้งต่อไป มีรายงานเรื่่องนี้ในเฟซบุ๊กสมเด็จฯฮุนเซน เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
.
.
ในวันนี้เช่นกัน นรม.กัมพูชา กับ นรม.ลาว ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานการเซ็นบันทึกช่วยความจำกับความตกลง 4 ฉบับ ระหว่างกระทรวงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย คือ เอ็มโอยูเกี่ยวกับการซื้อขายไฟฟ้าจากลาว การขอยืมช้างเพื่อนำไปแสดงในสวนสัตว์พนมเปญ และ ความร่วมด้านศิลปวัฒนธรรม กับความตกลงอีก 1 ฉบับ เกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านการศึกษาระหว่างปี 2562-2567
ในวันเดียวกัน นรม.กัมพูชาได้เข้าเยี่ยมคำนับ นายบุนยัง วอละจิต ประธานประเทศลาว รวมทั้งได้ต้อนรับการเข้าเยี่ยมของนางปานี ยาทอตู่ ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาวด้วย
ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว เมื่อฮุนเซนสั่งเคลื่อนกำลังทหารหลายร้อยนายเข้าสู่ชายแดน จ.สะตึงแตร็ง กับแขวงอัตตะปือของลาว โดยกล่าวหาว่า ลาวส่งทหารราว 30 คนข้ามแม่น้ำเซกอง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งพรมแดนธรรมชาติ เข้าไปในดินแดนกัมพูชา ขณะที่ฝ่ายลาวกล่าวว่าบริเวณดังกล่าว อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำแต่เป็นดินแดนของลาว
แต่แล้วเพียงข้ามวัน คือในวันที่ 12 ส.ค.2560 นรม.กัมพูชา ก็เดินทางไปยังเวียงจันทน์พบเจรจากับ ดร.ทองลุน และ สองฝ่ายตกลงร่วมกันถอนทหารออกจากพื้นพิพาทในทันที พร้อมประกาศยุติความตึงเครียด หันหน้าแก้ปัญหาอย่างสันติ สร้างแดนแห่งสันติภาพ กับความร่วมมือขึ้นมา เพื่อระโยชน์ของประชาชนสองชาติที่อยู่ในพื้นที่
.
.
ต่อมาต้นเดือน ก.ย. ดร.ทองลุน ได้เดินทางเยือนกัมพูชา และได้ร่วมกับฝ่ายเจ้าภาพประกาศลงมือแก้ไขปัญหาเขตแดนตรงจุดพิพาทในทันที พร้อมสั่งรัฐมนตรีต่างประเทศสองฝ่ายประชุมหารือเตรียมการ
สองฝ่ายได้ประกาศในคราวเดียวกัน มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศ รวมกันจัดทำร่างหนังสือถึงผู้นำฝรั่งเศส ขอแผนที่-เอกสารทั้งมวล ที่เกี่ยวกับชายแดนสองประเทศ เพื่ออ้างอิงในการแก้ไขจุดที่เป็น "ปัญหาถาวร" ที่เหลืออยู่ตลอดแนวชายแดน ทั้งย้ำในหลักการจุดร่วม "ไม่มีฝ่ายได้ไม่มีฝ่ายเสีย"
นรม.กัมพูชากล่าวระหว่างการแถลงข่าวในครั้งนั้นว่า จะจัดส่งทีมเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ลงสถานที่จริง กินนอน อยู่ที่นั่น จนกว่าจะหาทางแก้ปัญหา-ตกลงกันได้ แต่แล้วก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมาได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงของสองประเทศมาหลายคณะ ทั้งในระดับรัฐบาล รัฐสภาและกองทัพ ประธานประเทศลาวได้เดินทางเยือนกัมพูชา และ นายสาย ชุม ประธานวุฒิสภากัมพูชา ผู้รักษาการประมุขแห่งรัฐได้เดินทางเยือนลาวในความพยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้าน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตร "สามชาติอินโดจีน" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับเวียดนาม.