รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงศาสนาของพม่า กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ กำลังถูก “ล้างสมอง” ให้ยกขบวนบุกพม่า ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการทูตอันเนื่องจากชะตากรรมของชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้
ชาวโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน อพยพหลบหนีจากรัฐยะไข่ของพม่าเนื่องจากการปราบปรามของกองทัพเมื่อเดือน ส.ค. ตามการระบุของหน่วยงานสหประชาชาติ และในเวลานี้อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศที่แออัด ผู้สืบสวนสหประชาชาติกล่าวหาทหารพม่ากระทำการสังหารหมู่ ข่มขืน และเผาหมู่บ้านหลายร้อยแห่ง ด้วยเจตนาล้างเผ่าพันธุ์ แต่พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาส่วนใหญ่
ตูระ อ่อง โก กล่าวว่า บังกลาเทศ “ไม่ปล่อยให้พวกเขากลับ” โดยอ่อง โก อ้างถึงชาวโรฮิงญาด้วยคำว่าเบงกาลี คำที่มักใช้กันทั่วไปในพม่าเพื่อบ่งบอกว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ แม้ชาวโรฮิงญาจะระบุว่า พวกเขาเป็นคนพื้นเมืองของรัฐยะไข่
“หากปล่อยพวกเขาไป ประชากรก็จะลดลง และจากนั้นพวกเขาที่ค่ายจะเลี้ยงดูและล้างสมองคนหนุ่มสาวชาวเบงกาลีให้เดินทางจริงๆ พวกเขาจะยกขบวนมาพม่า เป้าหมายในอนาคตของคนเหล่านั้นต่อชาวเบงกาลีคือ ยกขบวนเข้ามาในพม่า” อ่อง โก กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่โดยเว็บไซต์ข่าว NewsWatch
แผนที่จะส่งผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับประเทศกลุ่มแรก 2,260 คน จากค่ายต่างๆ เมื่อเดือนก่อน ต้องหยุดชะงักลงหลังไม่มีผู้ลี้ภัยคนใดตกลงที่จะเดินทางกลับ โดยระบุว่า พวกเขาต้องการการรับรองความปลอดภัย และสถานะพลเมือง
ตูระ อ่อง โก อดีตนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่ในคณะรัฐมนตรีของนางอองซานซูจี หลังซูจี ก้าวสู่อำนาจในปี 2559 ได้กล่าวอธิบายความเห็นที่เขาได้กล่าวที่งานศพพระสงฆ์รูปหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับอัตราการเกิดในหมู่สมาชิกของศาสนาสุดโต่ง และภัยคุกคามต่อพุทธศาสนาในพม่า
“ขณะที่ชาวพุทธยึดถือการมีคู่สมรสเพียงคนเดียว และมีลูกเพียงแค่ 1-2 คน แต่ศาสนาสุดโต่งสนับสนุนให้มีภรรยา 3-4 คน และมีลูก 15-20 คน หลังจากผ่านไป 30 ปี 40 ปี 50 ปี ในประเทศชาวพุทธแห่งนี้ แน่นอนว่า ชุมชนชาวพุทธจะกลายเป็นชนกลุ่มน้อย” อ่อง โก กล่าวในวิดีโอที่เรดิโอฟรีเอเชียนำออกเผยแพร่
แลเมื่อวันอังคาร อ่อง โก ชี้แจงว่า ศาสนาอื่นที่กล่าวถึงนั้นหมายถึงเบงกาลี
ซาน อ่อง ประธานสมาคมอิสลามในนครย่างกุ้ง กล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์แสดงความเห็นว่า รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
“ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงศาสนาเขาไม่ควรกล่าวอย่างไร้ความรับผิดชอบ” ซาน อ่อง กล่าว.