xs
xsm
sm
md
lg

นักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวพม่าส่งเสียงผิดหวัง เริ่มหันหลังให้ “ซูจี”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ตินซา ชุน เล ยี นักเคลื่อนไหวเยาวชนชาวพม่า ที่เคยเรียกขานตัวเองว่าเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของนางอองซานซูจี เวลานี้เธอได้กลายเป็นหนึ่งในผู้วิจารณ์ผู้นำพม่าที่โดดเด่นที่สุด

ตินซา ชุน เล ยี อายุ 27 ปี เป็นสมาชิกในกลุ่มนักเคลื่อนไหวอิสระ ที่หลายคนในกลุ่มเคยเป็นอดีตแฟนพันธุ์แท้ให้การสนับสนุนนางอองซานซูจี ซึ่งกำลังรู้สึกผิดหวังกับฝ่ายบริหารที่พวกเขาลงคะแนนเสียงให้ก้าวเข้าสู่อำนาจเมื่อ 3 ปีก่อน

“ฉันเสียไอดอลของฉันไป ฉันสับสน ผิดหวัง และสูญเสีย” ตินซา ชุน เล ยี กล่าว

“นักเคลื่อนไหวและคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ตอนนี้กำลังคิดว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป? อะไรที่เราสามารถทำได้? ตอนนี้ดอว์อองซานซูจี กำลังเดินไปตามทางของเธอเอง ไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และเธอไม่ได้รับฟังเสียงองค์กรภาคประชาสังคม” ชุน เล ยี กล่าว

แม้ซูจีจะยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ชาวพม่าโดยทั่วไป แต่การเกิดขึ้นของขบวนการเคลื่อนไหวเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เห็นต่างถูกขับเคลื่อนจากความไม่พอใจในการจัดการปัญหาชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงชาวมุสลิมโรฮิงญา และการควบคุมสื่อและภาคประชาสังคม ความเคลื่อนไหวนี้เป็นความท้าทายใหม่ต่อฝ่ายบริหารของซูจี

เมียว ยุ้น โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กล่าวว่า พรรคกำลังพยายามที่จะชนะใจเยาวชนคนรุ่นใหม่ ด้วยการเพิ่มงบประมาณเพื่อการศึกษา และสนับสนุนส่งเสริมโครงการฝึกอบรมวิชาชีพ

“ประชาชนคนหนุ่มสาวคาดหวังจากรัฐบาลของเรามาก เรายอมรับว่าเรายังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของพวกเขาได้ แต่เรากำลังพยายามอย่างดีที่สุด” เมียว ยุ้น กล่าว

ซูจี ก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2559 หลังชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปฏิรูปประชาธิปไตยและยุติสงครามกลาางเมืองที่ดำเนินมายาวนานของประเทศ

นับแต่นั้น ฝ่ายบริหารถูกกดดันอย่างหนักจากการตอบสนองของรัฐบาลต่อเหตุการณ์การปราบปรามชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา ที่สหประชาชาติระบุว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ด้วยเจตนาล้างเผ่าพันธุ์ รวมทั้งการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ไม่ราบรื่น และเศรษฐกิจซบเซา

นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า รัฐบาลพลเรือนกลายเป็นเผด็จการมากขึ้น ล้มเหลวที่จะใช้เสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภายกเลิกกฎหมายสมัยอาณานิคมที่ใช้ปราบปรามผู้เห็นต่าง ขณะเดียวกัน ก็ดำเนินมาตรการจำกัดภาคประชาสังคมเข้มงวดขึ้น

ในช่วงหลายเดือนมานี้ พวกเขาได้จัดการชุมนุมประท้วงขึ้นหลายหน รวมทั้งการเดินขบวนต่อต้านสงครามในนครย่างกุ้งเมื่อเดือน พ.ค. ที่สิ้นสุดลงด้วยการสู้กันชุลมุน โดยมีผู้เข้าร่วมการชุมนุม 17 คน ถูกตั้งข้อหาชุมนุมประท้วงอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งรวมทั้ง ตินซา ชุน เล ยี ที่การพิจารณาคดียังคงดำเนินอยู่

“ประเด็นอ่อนไหวเป็นสิ่งต้องห้าม และผู้ชุมนุมประท้วงถูกจับกุมตัวและทำร้ายทุบตี พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย พรรคใช้ชื่อประชาธิปไตย พรรคต้องเคารพประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน” ชุน เล ยี กล่าว

Athan องค์กรด้านเสรีภาพในการพูดการแสดงออกระบุว่า นับตั้งแต่รัฐบาลซูจีบริหารประเทศมีนักข่าว 44 คน และนักเคลื่อนไหว 142 คน เผชิญกับการฟ้องร้องดำเนินคดี รวมทั้งนักข่าวของรอยเตอร์ คือ วา โลน และจ่อ ซอ อู ที่ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี เมื่อเดือน ก.ย. จากความผิดละเมิดกฎหมายความลับราชการ

หม่อง ซอง ข่า นักเคลื่อนไหวและผู้ก่อตั้ง Athan เป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงที่ถูกตั้งข้อหาพร้อมกับตินซา ชุน เล ยี เมื่อเดือน พ.ค. และในอีก 4 เดือนต่อมา พวกเขาทั้งคู่ช่วยองค์กรจัดการชุมนุมที่ครั้งนี้เรียกร้องเสรีภาพในการพูดการแสดงความคิดเห็น

“รัฐบาลล้มเหลวที่จะใช้อำนาจของตนปกป้องคุ้มครองสิทธิของประชาชน” หม่อง ซอง ข่า กล่าว

เมียว ยุ้น โฆษกพรรค NLD กล่าวว่า รัฐบาลนั้นให้ความร่วมมือกับเอ็นจีโอ แต่กิจกรรมของพวกเขาจำเป็นต้องถูกตรวจสอบเป็นกรณีไป

“หากไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นความมั่นคงหรือความแตกแยกในหมู่ชาติพันธุ์ เรายอมรับได้ เรากำลังมุ่งไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น เรายอมรับบทบาทของเอ็นจีโอ แต่เรากังวลว่าเอ็นจีโอจะถูกครอบงำจากผู้สนับสนุนแทนที่จะเป็นองค์กรอิสระ” เมียว ยุ้น กล่าว.


กำลังโหลดความคิดเห็น