โหดอมหิตคั้นอารมณ์จากป่าลาว เหยื่อพรานไพรใจไม่กล้าอย่าดู

MGR ออนไลน์ -- ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อออนไลน์ภาษาลาวหลายแห่ง ได้เผยแพร่ภาพอันน่าเวทนาของสัตว์ป่าหลายชนิด ที่ตกเป็นเหยื่อแร้วและกับดักของพรานป่่า ในป่าสงวนของ สปป. ซึ่งล้วนเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่บรรดานักอนุรักษ์สัตว์ป่า นักอนุรักษ์ธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ตลอดจนคนรักสัตว์ทั้งมวล ทั้งหมดล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ

ตามรายงานของเว็บไซต์ "ข่าวบ้านนา" ภาพเหล่านี้ถ่ายออกมาจากป่าสงวนแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่านากาย-น้ำเทิน แขวงคำม่วน ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางไปจดชายแดนเวียดนาม ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งของเขตแดนก็เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์เช่นเดียวกัน

สัตว์ป่าที่ตกเป็นเหยื่อมีหลายประเภท หลายภาพที่เพิ่งถ่ายออกมาจากป่าแสดงให้เห็นลิงเสน ลิงขนาดใหญ่ที่ติดแร้ว เสือไฟติดกับดัก สัตว์ขนาดใหญ่กว่า เช่นเก้งหรือกวาง ที่ติดกับเข้าบริเวณขาหน้า ไม่สามารถไปไหนได้ บางตัวโดนบ่วงโลหะกัดจนข้อเท้าห้อยร่องแร่ง เกือบขาด หลายตัวเสียชีวิตจนเน่าเปื่อยอยู่ตรงนั้น เพราะความเจ็บปวด เพราะขาดน้ำ และ อาหาร

พรานป่าเหล่านี้วางกับดักไว้ในหลายอาณาบริเวณ อย่างไร้ความปราณี ไม่รับผิดชอบ ไม่กลับไปดู หรือ เก็บกู้ ปล่อยให้เหยื่อทุกข์ทรมานจนสิ้นใจ

"ເລີ້ມຕັ້ງແຕ່ປີ 2011 ເປັນຕົ້ນມາ, ອ້າຍນ້ອງທະຫານ ລາດຕະເວນ ປ່າສະຫງວນ ແຫ່ງໜຶ່ງ ໃນພາກຕາເວັນອອກສຽງໄຕ້ຂອງປະເທດ ລາວ, ທີ່ໄດ້ຍ່າງກວດປ່າ ພົບເຫັນ ແຫ້ວທີ່ ນາຍພານ ໄດ້ຫ້າງໃສ່ເພື່ອຂ້າເອົາສັດປ່າ, ເຊິ່ງທະຫານ ເຈົ້າຫນ້າທີ່ປ່າສະຫງວນ ໄດ້ພາກັນຊ່ວຍປົດ ປ່ອຍຄືນສູ່ປ່າ, ແຕ່ຫນ້າເສົ້າໃຈບາງໂຕກໍ່ຕາຍ, ເຊິ່ງທະຫານ ປ່າສະຫງວນ ໄດ້ຊ່ວຍກັນເກັບກູ້ແຫ້ວ, ທີ່ນາຍພານໄດ້ໄປຫ້າງໃສ່ ເພື່ອຂ້າສັດປ່າໄວ້ ເປັນຈໍານວນຫລວງຫລາຍ"

[เริ่มตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา อ้ายน้องทหารลาดตระเวนป่าสงวนแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาวที่ได้เดินตรวจป่า พบเห็นแฮ่ว (แร้ว) ที่นายพรานได้ดักเพื่อเอาสัตว์ป่า ซึ่งทหารเจ้าหน้าที่ป่าสงวนได้ช่วยกันปลดปล่อยคืนสู่ป่า แต่น่าเศร้าที่บางตัวก็ตาย ซึ่งทหารป่าสงวนได้ช่วยกันเก็บกู้แฮ่ว ที่นายพรานไปดักเพื่อฆ่าสัตว์ป่าไว้เป็นจำนวนมากมาย" เว็บไซต์แห่งเดียวกันรายงานแต่เพียงสั้นๆ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก
.

.







.
ถึงแม้ว่ารายงานที่มีภาพประกอบล่าสุดนี้ จะพูดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยลาดตระเวนป่า ที่เริ่มมาตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังคงปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ เกี่ยวกับการลักลอบล่าสัตว์ป่า ทั้งล่าเพื่อใช้เป็นอาหารของคนในพื้นที่ จนถึงการล่าเพื่อการพาณิชย์ ล่าเพื่อนำชิ้นส่วนต่างๆ ของสัตว์ป่าส่งขาย ในหลายกรณีเป็นการส่งขายข้ามแดน โดยมีตลาดใหญ่ในย่านนี้คือ จีน กับเวียดนาม

ถัดจากคำม่วนลงไปในแขวงสะหวันนะเขต หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น "สะหวันพัดทะนา" รายงานเมื่อวันที่ 5 พ.ย. เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการจับยึดสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าหายากหลายชนิดและประเภท รวมทั้งหมูป่า อีเห็น เม่น งู เต่า พร้อมด้วยเครื่องดงของป่าอื่นๆ อีกหลายรายการ และจับยึดรถกระบะที่ใช้เป็นพาหนะในการขนส่งไว้ 1 คัน

เหตุเกิดบนทางหลวงเลข 9 ในเขตเมืองเซโปน ขณะมุ่งหน้าไปยังชายแดนเวียดนาม เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยได้เก็บหาและซื้อสิ่งผิดกฎหมายที่ยึดได้ทั้งหมด ไปจากเมืองพีนที่อยู่ถัดกันไป ผู้ต้องสงสัยให้การว่า มีผู้จ้างวานให้นำสิ่งผิดกฎหมายทั้งหมดไปยังเวียดนาม โดยเจ้าตัวไม่ทราบว่าสินค้าเหล่านั้นเป็นอะไร

ที่ผ่านมาสื่อของทางการยังรายงานเหตการณ์จับยึดและเผาลำลายซากสัตว์ป่า ที่เกิดขึ้นในอีกหลายแขวง ตั้งแต่อุดมไซทางตอนเหนือ ลงไปจนถึง เซกองและอัตตะปือทางตอนใต้ของประเทศ

สัตว์ทุกชนิดทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในเขตป่าสงวนของลาว ยังคงตกอยู่ในอันตราย เพราะพื้นที่หากินและอยู่อาศัยยังถูกคุกคาม จากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แม้ทางการจะได้พยายามหาทางหยุดยั้งอย่างเต็มกำลังก็ตาม สัตว์ป่าหลายชนิดเหลือจำนวนน้อยเต็มที่ ซึ่งรวมทั้งเสือโคร่งพันธุ์อินโดนจีน ที่เหลืออยู่จำนวนนับสิบเท่านั้น

สัตว์ป่าหลายชนิดใกล้สูญพันธุ์จากป่าธรรมชาติ ซึ่งรวมทั้งซาวลา (Sao la) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ที่พบในพื้นที่ชายลาวติดกับเวียดนาม ปัจจุบันมีจำนวนเหลืออยู่ไม่กี่ตัวและยังคงถูกตามล่า.