xs
xsm
sm
md
lg

พม่าเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ ส่งโรฮิงญากลับประเทศชุดแรก 2,000 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่าเยือนค่ายผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญาในบังกลาเทศวันนี้ (31) ในความพยายามที่จะเริ่มกระบวนการส่งผู้ลี้ภัยหลายแสนคนที่หลบหนีการปราบปรามของทหารเมื่อปีก่อนกลับประเทศ

ผู้ลี้ภัยโรฮิงญามากกว่า 700,000 คน หลบหนีความรุนแรงข้ามแดนไปฝั่งบังกลาเทศ ตามการระบุของหน่วยงานสหประชาชาติ หลังผู้ก่อความไม่สงบโรฮิงญาโจมตีกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าในเดือน ส.ค.2560 ที่นำมาซึ่งการตอบโต้ของทหารอย่างรุนแรง

เจ้าหน้าที่เปิดเผยหลังการพบหารือในกรุงธากา เมื่อวันอังคาร (30) ว่า การส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศจะเริ่มต้นในเดือนหน้า แต่หน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติระบุว่า สภาพเงื่อนไขในรัฐยะไข่ยังไม่เอื้อต่อการเดินทางกลับ

แม้การตรวจสอบประเมินระยะที่ 2 ในรัฐยะไข่โดยหน่วยงานของสหประชาชาติจะเสร็จสิ้นลงแล้ว แต่การเข้าถึงพื้นที่ยังคงจำกัด โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ระบุ

โรฮิงญา และชาวมุสลิมอื่นๆ ใน 3 เมือง เผชิญต่อความยากลำบากและความเปราะบางทางเศรษฐกิจเนื่องจากการจำกัดความเคลื่อนไหวและความรู้สึกหวาดกลัว และไม่ไว้วางใจ

กลุ่มแกนนำโรฮิงญาราว 60 คน ได้พบหารือกับคณะเจ้าหน้าที่พม่าราว 12 คน ในค่ายกุตุปะหล่อง ค่ายผู้ลี้ภัยใหญ่ที่สุดในโลก ในเขตคอกซ์บาซาร์ ของบังกลาเทศ

พม่าระบุย้ำว่า พร้อมรับผู้ลี้ภัยกลับประเทศตั้งแต่เดือน ม.ค. และได้สร้างค่ายใกล้ชายแดนเพื่อรับผู้ลี้ภัยเหล่านั้น

มี้น ทู ปลัดกระทรวงการต่างประเทศพม่าและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่พม่า กล่าวว่า พม่าได้ตรวจพิสูจน์รายชื่อผู้ลี้ภัยแล้วประมาณ 5,000 ชื่อ และการส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศจะเริ่มด้วยผู้ลี้ภัยชุดแรก 2,000 คน ในกลางเดือน พ.ย.

“เรามาที่นี่เพื่อพบกับผู้คนจากค่ายต่างๆ เพื่อที่เราจะสามารถอธิบายถึงสิ่งที่เราได้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลับประเทศของพวกเขา และรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา” มี้น ทู กล่าวกับนักข่าว ในเมืองค็อกซ์บาซาร์

บังกลาเทศได้มอบรายชื่อผู้ลี้ภัยโรฮิงญาเพิ่มเติมอีกมากกว่า 22,000 ชื่อ เพื่อให้ฝ่ายพม่าตรวจสอบ

แกนนำโรฮิงญากล่าวถึงการพบหารือในวันนี้ว่า การส่งกลับประเทศตามที่เสนอนั้นไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวพวกเขา

“พวกเขาบอกเราว่าเราไม่ต้องพักอยู่ในค่ายนานนัก แต่เมื่อเราถามว่ากี่วัน พวกเขากลับบอกไม่ได้ว่านานเท่าใด” โมฮิบ อัลละห์ แกนนำโรฮิงญา กล่าว

อัลละห์ กล่าวว่า แกนนำโรฮิงญาต้องการให้ทางการพม่ายอมรับพวกเขาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์พร้อมกับสิทธิการเป็นพลเมืองพม่าก่อนพวกเขาเดินทางกลับ

พม่าไม่ได้กำหนดให้โรฮิงญาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมือง และชาวพม่าจำนวนมากเรียกโรฮิงญาว่า เบงกาลี ที่หมายถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ

แผ่นพับที่เจ้าหน้าที่พม่ามอบให้แก่ผู้ลี้ภัย มีเนื้อความสนับสนุนให้โรฮิงญายอมรับบัตรประจำตัวใหม่ในฐานะขั้นตอนแรกของการเป็นพลเมือง ชาวโรฮิงญาหลายคนปฏิเสธบัตรดังกล่าว ซึ่งพวกเขาระบุว่า ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นดังชาวต่างชาติ

ผู้ที่ครอบครองบัตรพิสูจน์สัญชาติ (NVC) จะได้รับการรับรองการพัฒนาทางเศรษฐกิจ-สังคม แต่ผู้ที่ไม่มีบัตรนี้จะถือเป็นผู้ไร้สัญชาติ แผ่นพับระบุ

“เมื่อเราถามถึงการเป็นพลเมืองของเรา ก็ไม่มีคำตอบ พวกเขาบอกให้เรายอมรับบัตร NVC พวกเขาบอกให้เรายอมรับบัตร NVC เราไม่ยอมรับบัตร NVC เราไม่ใช่เบงกาลี” ชาวโรฮิงญาที่เข้าร่วมการประชุมอีกรายหนึ่ง กล่าว

แกนนำโรฮิงญามอบจดหมายถึงนางอองซานซูจี ผู้นำพม่า ที่ระบุข้อเรียกร้องของพวกเขา รวมทั้งการชดเชยและการฟื้นฟู สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับโรฮิงญา

ผู้สอบสวนสิทธิของสหประชาชาติระบุในเดือน ส.ค. ว่า ทหารพม่ากระทำการด้วยเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในการปราบปรามเมื่อปีก่อน

รัฐบาลนางอองซานซูจี ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกือบทั้งหมด และโต้แย้งว่าเป็นการตอบโต้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้าย.



กำลังโหลดความคิดเห็น