ป้าเวียดนามสักนมเปลี่ยนหน้าดราม่าสุดๆ แต่งผัวเด็กเคี้ยวหนุ่มๆนุ่มๆกรอบๆดังกร๊อบๆ

MGR ออนไลน์ -- เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวชีวิตคู่ "เซ็กส์ แอนด์ รีเลชั่นชิพ" ทั้งหลายทั้งปวง ช่วงข้ามเดือนมานี้่ในประชาคมออนไลน์ชาวเวียดนามนับล้านๆ ไม่มีข่าวใดจะได้รับความสนใจมากมายเท่ากับเหตุการณ์วิวาห์ข้ามวัย ระหว่างเจ้าสาวคราวป้ากับเจ้าบ่าวคราวหลาน ซึ่งมีทั้งเสียงแสดงความยินดีเซ็งแซ่ กับความคาดหวังที่จะเห็นรักแท้ที่ยืนยง เสียงเสียดสีให้เห็นเป็นเรื่องขบขัน กับอีกฝ่ายหนึ่งก่นประณามคู่บ่าวสาว ฐานทำให้ค่านิยมทางวัฒนธรรมตกต่ำ ทำให้กรณีนี้กลายเป็นดราม่าระดับชาติในที่สุด

กระแสเริ่มเย็นลงหลังชาวเน็ตกลุ่มต่างๆ ก่นกันเองจนเหนื่อยอ่อน ได้กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงข้ามวันมานี้ หลังจากคลินิกเสริมความงามที่มีชื่อเสียงในกรุงฮานอย เผยแพร่ภาพกับวิดีการทำศัลยกรรม "เบเบี้เฟซ" นางบุ่ย ถิ ทู ชาว (Bùi Thị Thu Sao) เจ้าสาว..เอ่อ..ภรรยาวัย 62 ปี แสดงให้เห็นการเปลี่ยนรูปแปลงโฉม ใบหน้าดูอ่อนเยาว์เหมือนสาวๆวัย40 ส่วนสามีวัย 26 ปี -- เจี่ยว ฮวา เกือง (Triệu Hoa Cương) ก็ทำเหล่าเต๊งมา ทำให้หน้าตาเปลี่ยนไป ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

เรื่องนี้กลายเป็นหัวข่าวสำคัญของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ กับเว็บไซต์ข่าวต่างๆหลายสิบสำนักในวันศุกร์ 19 ต.ค.นี้

นางชาวเปิดเผยว่า กลับจากพม่าเมื่อ 4 วันก่อน ลงจากเครื่องบินในฮานอย ก็ตรงไปยังคลินิกตามนัดหมาย เพื่อเปลี่ยนรูปแปลงโฉมอันเป็นสิ่งที่สามีหนุ่มคัดค้านตลอดมา เพราะห่วงใยในเรื่องสุขภาพ แต่นางยืนยันอยากจะทำเพราะเป็นความตั้งใจแต่ไรมา เนื่องจาก "ผู้หญิงทุกคนล้วนอยากสวยอยากงาม"

วิดีโอชิ้นหนึ่งที่ "ไล้ฟ์สด" ออกจากห้องพักของคลินิกไม่กี่วันมานี้ แสดงให้เห็นสามีหนุ่มเฝ้าดูแลภรรยาคราวป้าอย่างใกล้ชิด เป็นที่ประทับใจของชาวออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มหญิงมีอายุ ต่อมาข้ามวันรูปภาพอีกจำนวนมากก็แพร่สะพัด แสดงให้เห็นรูปหน้า "เบบี้เฟซ" อันเกลี้ยงเกลา ไร้รอยเหี่ยวย่นกับตีนกา และหน้าผากที่โค้งมนกลมกลึง-- คลินิกบอกว่าเป็นผลงานที่ออกมาหลังใช้เวลาดำเนินการ 3 วัน

เหตุการณ์ล่าสุดตกเป็นขี้ปากของชาวออนไลน์อีกครั้ง นับตั้งแต่คุณป้าไปสักชื่อของสามีลงบนเนินอก ให้เป็นที่ฮือฮาไม่สิ้นสุด -- นางชาวตอบสังคมแต่เพียงสั้นๆ ว่า เป็นลายสักที่ช่างคนหนึ่งเสนอทำให้ฟรีๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สาเหตุที่เลือกบริเวณนั้นก็เพราะต้องการให้เห็นว่า ชื่อ "Hoa Cương" อยู่แนบชิดกับหัวใจของเราตลอดไป -- หวานแหววอะไรป่านนั้่น..
.




.
ท้าวความสักนิด.. งานแต่งสะท้านครรลองคู่นี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ จ.กาวบ่าง (Cao Bằng) ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดชายแดนจีน อันเป็นที่ตั้งเคหะสถานบ้านเกิดของคนทั้งสอง เป็นงานง่ายๆ จัดที่บ้านของเจ้าสาว เชิญเพื่อนบ้านกับเพื่อนฝูงไม่กี่สิบคน แต่ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดมีดราม่ามากมายในสังคมชาวคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับครอบครัวและการใช้ชีวิตคู่ ก็ดูจะเคร่งครัดในเรื่องจารีตนิยมไปทั้งหมด

เป็นดราม่าที่เต็มไปด้วยการเยอะเย้ยถากถาง ทำให้เป็นเรื่องตลก น่าสมเพศเวทนา เป็นเรื่องคนแก่ไม่เจียม อยากมีเซ็กส์กับเด็กหนุ่ม นอกจากนั้่นก็ยังเป็นเรื่องละอ่อนได้เมียแก่ มีเสียงเตือนให้ระวังนกเขาไม่ขัน จะเป็นโรคมะเขือเผา ระวังตื่นขึ้นมากลางดึกจะผวา เมื่อเห็นใบหน้าเหี่ยวๆอยู่ข้างๆ -- บ้างก็บอกให้ระวังอีกไม่นานต้องไปเฝ้าหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาล บ้างก็บอกว่าเสียชาติเกิด บ้างก็บอกว่า "เสียดายของ"

มีสาวๆ จำนวนไม่น้อย ที่เข้าไปเขียนบริภาษถากถางฝ่ายเจ้าบ่าว คล้ายกับแสดงความขุนเคือง กระทั่งคับแค้นใจ ที่หนุ่มหน้าตาดีอนาคตไกล อย่างฮวา เกือง มองข้ามสาวๆ สวยๆ ซิงๆ อย่างพวกเธอไป

แต่ในขณะเดียวกัน คนอีกไม่น้อยมองว่ากรณีนี้เป็นความหวังของบรรดาสาวแก่แม่หม้ายใจเปลี่ยว ที่ต้องการความรักความห่วงใย ช่วยต่ออายุให้ยืนยาวขึ้น -- หลายคนมองเป็นความรักที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของสองคน แม้อีกส่วนหนึ่งจะมองเป็นเรือง "ป้าแก่ๆอยากกินเด็ก" ไม่ต่างกับกรณีของชายวัยสูงอายุ ที่ถูกกล่าวหาตลอดมาจนเป็นธรรมเนียม ด้วยวลีที่ว่า "โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน"

"เคี้ยวเด็กมันคงกรอบกร๊อบๆ ดีเนอะ.." เป็นวลีที่ทั้งหนุ่มทั้งสาว เข้าไปเขียนกระแนะกระแหน และ ประชดประชัน ในเฟซบุ๊กของทู ชาว และคุณป้าไม่ได้ตอบโต หากยังแสดงออกให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่า ความรักต่างวัยไม่ใช่ความผิดปรกติอะไรถ้าทำให้หัวใจเป็นสุข และใครจะรักใครชอบพอใคร ก็เป็นเรื่องของสองคนอย่างแท้จริง
.


.
มีชาวเน็ตเวียดนามอีกจำนวนไม่น้อยที่เห็นพ้องต้องกันว่า ใครจะทำอะไรในเรื่องรักๆใครๆ ก็เป็นเรื่องของใครเขา ไม่ได้เป็นภาระบนศรีษะของใครที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย..

เรื่องราวที่คนทั้งสองให้สัมภาษณ์ในรายการทางโทรทัศน์แห่งชาติหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมานี้่ ทำให้สังคมทราบว่า นางทู ชาว เคยแต่งงานแล้ว เรื่องราวในเฟซบุ๊กแสดงให้เห็นว่ามีทั้งลูกชายและลูกสาว ยังเป็นยายของหลานๆ ที่น่ารักอีก 2 คน แต่ปัจจุบันอยู่ตัวคนเดียว เป็นเจ้าของร้านบิวตี้สปาเล็กๆในกาวบ่าง กับธุรกิจอาหารเสริมความงาม บำรุงสุขภาพร่างกาย

ส่วนเจ้าบ่าวเป็นช่างยนต์ หลังเรียนจบก็กลับไปเปิดร้านซ่อมที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสปาของคุณป้า -- จะเรียกว่าโชคดีโชคร้ายถึงจะดี ที่โตเป็นหนุ่มขึ้นมามีสิวเขรอะเต็มหน้า ทำให้ต้องไปใช้บริการรักษาและนวดหน้า ที่สปาแห่งความรัก นำไปสู่วิวาห์เมื่อวันที่ 10 เดือนที่แล้ว .. มันเป็นวิวาห์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขา

นางทู ชาว เล่าในเวลาต่อมาว่า สามีก็เหมือนกับลูกค้าคนอื่นๆทั่วไป ที่ไปใช้บริการของร้าน ไม่เคยคิดเลยวันหนึ่งจะตกหลุมรักหนุ่มหน้าใสวัยลูกคนนี้ ซึ่งก็ตรงกับที่ฮวา เกือง เล่าว่า -- เขาเรียกภรรยา "หม่า" หรือ "แม่" เสมอมา ถึงแม้พ่อแม่ของตัวเองจะอายุน้อยกว่าก็ตาม -- ความใกล้ชิดนำไปสู่ความเข้าอกเข้าใจ และกลายเป็นความเห็นอกเห็น กลายเป็นความรักในที่สุด
.














เกือง เขียนในเฟซบุ๊กเมื่อต้นเดือนนี้ว่า "ผมคงเป็นหนี้ภรรของผมมาตั้งแต่ชาติก่อน ชาตินี้ต้องติดตามมาดูแลและปกป้องผู้หญิง คนที่ผมจะอยู่ด้วยตราบชั่วชีวิต" - ช่างเป็นวาทะที่อ่อนหวานและงดงามอะไรเช่นนี้

ความรักเป็นสิ่งงอกงามได้ บางทีก็เหี่ยวเฉาได้ แต่รักข้ามวัยแหวกครรลองของคนคู่นี้ กำลังเบ่งบาน

ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาเมื่อภรรยาต้องเดินทางไปร่วมงานนิทรรศการอะไรสักอย่างในกรุงย่างกุ้ง สหภาพเมียนหม่า ฮวา เกือง ได้หอบดอกไม้ช่อใหญ่ ตามไปเซอร์ไพรส์ภรรยาต่างวัย ถึงสนามบิน ภาพที่เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นทั้งคู่กอดกันกลมดิกอย่างห่วงหาอาวรณ์ -- จุดไฟอิจฉาตาร้อนให้คุโชนขึ้นอีกครั้งในสังคมออนไลน์

แต่รักแท้ย่อมพิสูจน์ตัวเอง มหาประชามติในเวียดนามดูจะเอนเอียงในทิศทางเดียวกันในที่สุด -- โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังศัลยกรรมเบบี้เฟซ เวียดออนไลน์หลายร้อยหรือนับพันๆ เข้าไปเขียนแสดงความยินดี อวยชัยให้พรคนทั้งสองในช่วงข้ามคืนมานี้ -- วิดีโอที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์แห่งต่างๆ รวมทั้งช่องยูทิวบ์ ล้วนมีผู้ติดตามชมเป็นหลักหมื่น และ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีไม่น้อยที่เขียนให้กำลังใจภรรยาสูงวัย ที่พยายามปรับตัวเอง เพื่ออยู่ร่วมกับสามีหนุ่ม หลายคนบอกว่า ตัวเลข 62-26 เป็นเลขคู่ที่ดูงดงามยิ่ง..

ย้อนกลับไปสัปดาห์ต้นเดือน ในโอกาสครบรอบวันเกิด 62 ปีของนางบุ่ย ถิ ทู ชาว .. หญิงชาวออนไลน์คนหนึ่งเข้าไปเขียนอวยชัยให้พรว่า "แมวดีที่สุดคือแมวแก่ เพราะจับหนูได้มากที่สุด ได้ตัวโตที่สุด -- สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณป้า ขอให้อายุมั่นขวัญยืน มีแต่ความผาสุขตลอดไป.." -- ดูจะเป็นการให้กำลังใจที่มีน้ำหนักดีที่สุดสำหรับคู่ชีวิตต่างวัย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา.