xs
xsm
sm
md
lg

นักอนุรักษ์เตือนแฟชั่นขนหางช้างนำโชคในเวียดนาม หวั่นช้างถูกล่าไม่เหลือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - แม่ค้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในอาณาจักรช้าง ชูหางช้างแห้งที่มีขนหางติดอยู่ พร้อมโปรยคำโฆษณาว่า ขนหางช้างจะนำโชคดีมาสู่ผู้ครอบครอง การค้าแบบใหม่ที่เป็นอันตรายต่อบรรดาประชากรช้างที่เหลืออยู่ไม่มากนักในประเทศ

“ฉันตัดขนออกต่อหน้าคุณตรงนี้เลย จะได้มั่นใจว่าไม่ใช่ของปลอม” แม่ค้า กล่าวพร้อมชูหางช้าง

ความนิยมในเครื่องประดับ เช่น แหวน และกำไลที่มีขนช้างฝังอยู่ กำลังสร้างความวิตกในประเทศที่อื้อฉาวเรื่องการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ตั้งแต่นอแรด ไปจนถึงเกล็ดตัวนิ่ม เขี้ยวเสือ และดีหมี

ความนิยมลักษณะนี้กำลังเพิ่มความวิตกต่อประชากรช้างที่เหลือรอดอยู่ไม่กี่ตัวในเวียดนาม ที่ขนของพวกมันถูกถอน หรือตัดออกโดยบรรดานักล่า และปล่อยให้ช้างไร้ปลายหางที่ใช้ปัดแมลง และช่วยให้บั้นท้ายสะอาด

“หางช้างเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากต่อสุขอนามัย การดึงขนออกไป หรือตัดส่วนล่างของหางออกไปทั้งหมดนั้น คุณทำให้ช้างของคุณต้องพิการ” ดิโอน สแลกเตอร์ ผู้จัดการสวัสดิภาพสัตว์จากองค์กร Animals Asia กล่าว

แต่ด้วยจำนวนช้างเลี้ยงที่เหลืออยู่เพียง 80 เชือก และช้างป่าประมาณ 100 ตัว ซึ่งลดลงจากราว 2,000 ตัวในปี 2533 สแลกเตอร์ สงสัยว่าหางช้างส่วนใหญ่ถูกลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือไกลออกไปกว่านั้น เช่น แอฟริกา

ความต้องการชิ้นส่วนอวัยวะช้างเป็นเทรนด์ที่โหดร้าย ที่เกิดขึ้นทั่วในภูมิภาคนี้ เช่น ในพม่า ช้างถูกฆ่าเพื่อเอาหนังช้าง ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในประเทศและในจีน ที่เชื่อว่าสามารถรักษาโรคผิวหนัง และสิว

การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย และการล่ายังส่งผลให้ประชากรช้างในไทย กัมพูชา และลาว ลดลงมากเช่นกัน

ในเวียดนาม ชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์มะนง และเอเด ใน จ.ดั๊กลัก หรือที่รู้จักในชื่อ “อาณาจักรช้าง” เนื่องด้วยเป็นที่อยู่ของช้างฝูงใหญ่ มีความเคารพนับถือสัตว์สายพันธุ์นี้อย่างลึกซึ้ง

ตามตำนานที่เล่าขานต่อกันมา ระบุว่า การค้นพบขนหางช้างโดยบังเอิญตามพื้นดินในป่าถือเป็นเรื่องโชคดี เรื่องราวนี้ถูกเจ้าของร้านค้านำมาใช้โฆษณาขายสินค้าไม่ว่าจะแหวน กำไล เครื่องประดับจากงาช้าง และพระพุทธรูป ที่สามารถทำรายได้ถึง 900 ดอลลาร์

แต่การตัด หรือถอนขนหางช้างไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของขนบธรรมเนียมนี้

“พวกเขารักและถือว่าช้างเป็นส่วนหนึ่งของครองครัว ดังนั้น พวกเขาจะไม่ทำให้พวกมันเจ็บ พวกเขาไม่เคยขายขนช้าง” นักวิจัยด้านวัฒนธรรมชนเผ่าเอเด กล่าว.








กำลังโหลดความคิดเห็น