MGR ออนไลน์ -- หลายคนปักใจเชื่่ออย่างดิบดีว่า สิ่งที่ปรากฎอยู่ในป่าทางภาคตะวันตกของกัมพูชาในกูเกิ้ลเอิร์ธนั้น อาจจะเป็นซากของเครื่องบินโบอิ้ง-777-200 เที่ยวบิน MH730 ที่หายสาปสูญ 4 ปีที่แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มหนึ่งให้ความเห็นเป็นสมมุติฐานใหม่ไม่กี่วันมานี้ว่า สิ่งที่เห็นอาจจะเป็นซากเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดรุ่นหนึ่งของสหรัฐ ที่ใช้แพร่หลายมากในช่วงสงครามเวียดนาม และ อาจจะถูกยิงไปตกในดินแดนเขมร ขณะบินกลับไปยังฐานทัพในประเทศไทย
นี่คือความพยายามล้มล้างความเชื่อของนายเอียน วิลสัน (Ian Wilson) ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ที่ประกาศเมื่่อต้น ก.ย.นี้ว่า ตนพบซากเครื่องบินตกในบริเวณชายป่าที่อยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไปราว 97 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก ตามที่ปรากฏในกูเกิ้ลเอิร์ธ -- เรื่่งนี้ได้ทำให้ความพยายามค้นหาเที่ยวบินสูญหาย พร้อมลูกเรือกับผู้โดยสารกว่า 200 ชีวิต เริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 12 เดือนนี้ หลังหยุดหลายเดือน
นักธุรกิจคนหนึ่งพร้อมผู้สื่่อข่าวอีกคน เช่าเฮลิคอปเตอร์ในกัมพูชากว่า 3,000 ดอลลาร์ บินค้นหาทางอากาศในเขตป่าที่ต้องสงสัยโดยไม่พบอะไร -- แต่นายวิลสันซึ่งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ยังไม่เชื่อโดยเจ้าตัวบอกว่า การค้นหาอาจจะยังไม่ดีพอ เพราะฉะนั้นตัวเขาเองจะออกดำเนินการเองในเดือน ต.ค.นี้
นายวิลสันกล่าวว่าวัตถุที่พบในกูเกิ้ลเอิร์ธนั้นมีความยาวราว 70 เมตร -- ยาวกว่าเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียที่มีลำตัวยาวเพียง 63.7 เมตร -- เจ้าตัวบอกว่าย่อมเป็นไปได้ ที่ความยาวของลำตัวจะเพี้ยนไป เนื่องจากเกิดการกระแทกพื้น เมื่อเกิดเหตุ
อย่างไรก็ดี หลายเสียงกล่าวว่าที่นายวิลวันเชื่อจะเป็นซากโบอิ้ง 777-200 นั้น แท้จริงอาจเป็นซาก F-105 "ธันเดอร์ชีฟ" (Thunderchief) ที่ถูกยิงตก ตั้งแต่ครั้งสงครามเวียดนามก็เป็นได้ เครื่องบินขับไล่โจมตีทิ้งระเบิดรุ่นนี้ มีบทบาทอย่างสูงมากในช่วงต้นของสงคราม แต่ถูกปลดออกจากกองทัพอากาศสหรัฐอย่างรวดเร็ว หลังถูกยิงตกเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีจุดอ่อน
.
"มีซากเครื่องบินเอฟ-105 ที่พบอยู่ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากมาย" ผู้ที่รู้เรื่องดีคนหนึ่งโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ไม่กี่วันมานี้ -- แต่อีกหลายคนกล่าวว่า ไม่ว่ามันจะเป็นซากของ F-105 หรือเครื่องบินรุ่นไหนก็ตาม กรณีนี้ควรจะต้องมีการพิสูจน์
นอกจากนั้นก็ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือในเรื่องขนาดของซาก -- หลายคนชี้ว่าถ้าหากซากที่ปรากฏในกูเกิ้ลเอิร์ธยาว 70 เมตรจริงๆ ก็ไม่น่าจะเป็นซากของ F-105 เพราะ "ธันเดอร์ชีฟ" เป็นเพียงเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดทั่วไป ไม่ได้มีลำตัวยาวถึงขนาดนั้น
ตามข้อมูลของกองทัพสหรัฐ ในช่วงปีแรกๆของสงครามเวียดนาม มี F-105 ถูกยิงตกในย่านนี้รวมทั้งสิ้น 382 ลำ ในนั้นมี 320 ลำถูกยิงตกขณะออกปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายต่างๆ และ ยังมีซากของเครื่องบินรบรุ่นนี้จำนวนมากที่ยังหาไม่เจอ
เป็นที่ทราบกันดีว่า เที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ได้หายจากจอเรดาร์และขาดการติดต่อไป เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2557 ไม่นานหลังบินขึ้นจากกรุงกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง พร้อมผู้โดยสารกับลูกเรือที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนรวมทั้งหมด 239 คน เชื่อกันว่าในช่วงสุดท้ายของการเดินทางนั้่น เครื่องบินได้เปลี่ยนทิศทางหันหัวไปทางมหาสมทุรอินเดียโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
การค้นหาตลอด 4 ปีที่ผ่านมาจึงเน้นไปยังท้องมหาสมุทรอินเดีย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 120,000 ตารางกิโลเมตร โดยไม่พบหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน -- การค้นหายุติลงวันที่ 29 พ.ค.ปีนี้ หลังสัญญาจ้างบริษัทโอเชี่ยนอินฟินิตี้ (Ocean Infinity) ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจมหาสมทุรได้สิ้นสุดลง
.
รายงานการสำรวจความยาว 495 หน้า เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นั้นสรุปว่า พวกเขายังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้เที่ยวบิน MH370 สูญหายได้
การออกค้นหาทางอากาศในกัมพูชาครั้งล่าสุดนี้ ดำเนินการโดยนายซอร์บา พาเรอร์ (Zorba Parer) นักธุรกิจ กับนายไมเคิ้ล คาร์ (Michael Carr) ผู้สื่อข่าว แต่ก็ไม่พบอะไรดังที่กล่าวมาแล้ว -- และในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ก็ยังมีชาวกัมพูชาอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อค้นหา แต่ผลก็ออกมาไม่ต่างกัน
แต่แม้ว่าพวกเขาจะไม่พบซากเครื่องบินใดๆ ก็ได้พบเรื่องอื่น นายคาร์กล่าวว่าบริเวณป่าย่านนั้นมิใช่ป่าธรรมชาติหรือป่าดิบตามข้อมูลของกูเกิ้ลเอิร์ธ หากเป็นพื้นที่มีคนอยู่อาศัย พวกตนเห็นบ้านเรือนกับผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวนาที่ยากจน
"และถ้าหาเครื่องบินตกแถวนั้นจริง ทุกชิ้นส่วนที่เป็นโลหะก็คงจะถูกเก็บไปขายจนหมดเกลี้ยงตั้งนานมาแล้ว" นายคาร์กล่าวในเฟซบุ๊ก
สวนนายวิลสันนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ว่า เจ้าตัวยังคงมุ่งมั่นจะเข้ากัมพูชาในเดือนหน้าตามที่ให้สัมภาษณ์หรือไม่ -- หรือ ล้มเลิกความตั้งใจไปแล้วในขณะนี้.
