xs
xsm
sm
md
lg

รันเวย์สนามบินโฮจิมินห์-ฮานอยโทรมหนักถึงขีดอันตรายต้องซ่อมด่วน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<br><FONT color=#00003>เครื่องบินจอดเรียงรายในมุมหนึ่งของสนามบินโฮจิมินห์ ตอนเช้าตรู่ 8 ก.ค.2559 -- เป็นที่ทราบกันดีว่าที่นี่แออัดมาหลายปีจนต้องให้สายการบินต่างๆ ย้ายที่จอด แต่คงจะลืมไปอีกเรื่องหนึ่ง -- รันเวย์ที่นี่สร้างขึ้นมาให้ใช้งานได้ระดับหนึ่งเท่านั้่น วันนี้ทรุดโทรมหนัก และต้องซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ไม่ต่างกันสนามบินกรุงนฮานอย. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.  </a>

MGR ออนไลน์ -- ทางวิ่งขึ้นลงเครื่องบินของสนามบินใหญ่ทั้งสองแห่งในเวียดนามปัจจุบัน อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก เนื่องจากใช้หนักเกินกำลัง จึงใช้ได้ไม่ถึง 10 ปีตามเกณฑ์มาตรฐานการออกแบบและก่อสร้าง กระทรวงขนส่งต้องยื่นของบประมาณต่อรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นก็เสี่ยงต่อการที่จะต้องปิดสนามบินโดยสิ้นเชิง

เรื่องนี้ผุดขึ้นมาเป็นข่าวในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา อย่างไม่คาดคิดกันมาก่อน กระทรวงขนส่งทำหนังสือด่วนเสนอรัฐบาลกับกระทรวงการเงิน จัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มเติม สำหรับซ่อมแซมรันเวย์ของสนามบินนานาชาตินครโฮจิมินห์ เตินเซินเญิ๊ต (Tân Sơn Nhất) กับสนามบินนานาชาติโนยบ่าย (Nội Bài) ในเมืองหลวง เพื่อกอบกู้ความเสียหาย "โดยเร่งด่วน"

ปัจจุบันรันเวย์ 07L/25R สนามบินเตินเซินเญิ๊ต ปรากฏรอยแตกในหลายจุด ในบางบริเวณพื้นผิวราดยางเกิดการบิดงอโค้งนูนขึ้นจากพื้น อันเนื่องมาจากการงานหนักเกินกว่าแบบก่อสร้างจะสามารถรับได้ สื่อภาษาเวียดนามรายงานอ้างรายละเอียดส่วนหนึ่ง ในหนังสือที่กระทรวงขนส่ง ส่งถึงกระทรวงการเงิน

สนามบินโนยบ่ายก็ไม่ต่างกัน รันเวย์ B1 เกิดรอยแยกบนผิวจราจรปรากฏให้เห็นในหลายจุด แผ่นคอนกรีตปูพื้นมีรอยแตก รวมทั้งในบริเวณแท็กซี่เวย์ด้วย ถ้าหากไม่ซ่อมแซมยก็อาจจำเป็นจะต้องปิดสนามบินทั้งอาณาบริเวณ

"แม้จะอยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่ระบบของสนามบินโนยบ่ายกับสนามบินเตินเซินเญิ๊ต ก็ยังต้องรับภาระหนักเกินกำลังต่อไป การบำรุงรักษา ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย และ มีอันตรายที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยทางการบิน มีความจำเป็นอย่างยิ่งและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด" หนังสือของกระทรวงขนส่งระบุในตอนหนึ่ง

อีกทางหนึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่ง มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก รายงานรายละเอียดกับความจำเป็นที่จะต้องซ่อมรันเวย์ของสนามบินสำคัญทั้งสองแห่ง ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณอีกราว 4.5 แสนล้านๆด่ง (193 ล้านดอลลาร์) เพิ่มในงบประมาณสำหรับปี 2559-2563 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

กระทรวงขนส่งได้ขอให้กระทรวงการคลัง อนุญาตให้บริษัทท่าอากาศยานเวียดนาม (Vietnam Airports Corporation) สามารถใช้เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมการสนามบินใหญ่ทั้งสองแห่ง สมทบกับงบประมาณประจำปีโดยตรงเพื่อการนี้ เนื่องจากงบประมาณของกระทรวงฯ ไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามผู้บริหารของ ACV ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์แหงชาติว่า ปี 2561 นี้บริษัทฯ คาดว่ามีรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินทั้งสองแห่ง รวมกันเพียงประมาณ 100,000 ล้านด่ง ไม่พอที่จะใช้ซ่อมแซมสนามบินได้ นอกจากจะต้องใช้งบประมาณเพื่อการพัฒนาไปด้วยส่วนหนึ่ง

ตามข้อมูลของบริษัทการท่าอากาศยานเวียดนาม การซ่อมแซมรันเวย์ 25R/07L สนามบินโฮจิมินห์ ครั้งล่าสุดมีขึ้นในเดือน ม.ย.2556 รับประกันว่า เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ เช่น โบอิ้ง 777-33ER สามารถใช้ขึ้นบินได้ถึง 55,100 เที่ยวในเวลา 10 ปี -- อย่างไรก็ตาม จนถึงเดือน เม.ย.2561 -- ปีนี้ มีเครื่องบินบินขึ้นจากรันเวย์ดังกล่าวแล้วรวม 126,000 ครั้ง มากกว่าแบบที่ออกเอาไว้กว่าเท่าตัว

รันเวย์ 1B สนามบินฮานอยก็เช่นเดียวกัน เฟสที่ 1 เริ่มเปิดใช้ปี 2546 ออกแบบมาให้เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่เช่น โบอิ้ง 747-400 สามารถลงจอดได้ 10,500 เที่ยว ในเวลา 10 ปี -- แต่ถึงสิ้น เม.ย.ปีนี้ มีเที่ยวบินต่างๆ ไปลงจอดที่นั่นรวม 284,000 เที่ยว

นายลาย ซวน แท็ง ผู้อำนวยการใหญ่ของ ACV ให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์แหงชาติว่า ถ้าไม่เร่งซอมแซม/อัปเกรดสนามบินทั้งสองแห่งก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่ปลอดภัย ขึ้นในมาตรฐานการบิน และ สามารถนำไปสู่การปิดใช้สนามบินอย่างสิ้นเชิงได้.


กำลังโหลดความคิดเห็น