เอเอฟพี - เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ VKontakte (VK) ของรัสเซีย เดินตามเฟซบุ๊ก สั่งแบนบัญชีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า และพระสงฆ์ชาตินิยมหัวรุนแรงที่มีชื่อเสียงจากการปลุกปั่นความหวาดกลัวอิสลามในประเทศที่ถูกทั่วโลกตำหนิประณามถึงการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญา
เฟซบุ๊กขึ้นบัญชีดำ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย และนายทหารระดับสูงอีกจำนวนหนึ่งเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน หลังรายงานของผู้สืบสวนสหประชาชาติเรียกร้องการฟ้องดำเนินคดีต่อบรรดานายพลจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้นำทหารได้เปิดบัญชีใหม่บนสื่อสังคมออนไลน์ VK ที่การใช้งานคล้ายกับเฟซบุ๊กแต่เป็นของรัสเซีย และมีผู้กดติดตามอย่างรวดเร็วราว 37,000 คน แต่ในวันจันทร์ (17) ที่หน้าเพจกลับมีข้อความปรากฏว่า “บัญชีถูกระงับเนื่องจากละเมิดเงื่อนไขการบริการของ VK”
VK เผยกับเอเอฟพีว่า บัญชีของ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย และพระวิระธู ถูกบล็อกถาวรหลังได้รับคำร้องเรียนจำนวนมากจากผู้ใช้งาน และเสริมว่า บริษัทได้จ้างผู้พูดภาษาพม่าเพื่อตรวจสอบโพสต์ต่างๆ
พระวิระธู เป็นพระภิกษุที่มีอิทธิพล และเป็นที่รู้จักจากความเกลียดชังของท่านที่มีต่อศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโรฮิงญา เฟซบุ๊กปิดบัญชีของพระวิระธู ในเดือน ม.ค. จากการโพสต์ข้อความด้วยถ้อยคำรุนแรงมุ่งเป้าโจมตีชนกลุ่มน้อย
การปราบปรามของกองทัพพม่าเมื่อปีก่อนส่งผลให้ชาวโรฮิงญาราว 700,000 คน ต้องหลบหนีข้ามแดนไปฝั่งบังกลาเทศ ซึ่งผู้ลี้ภัยได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับการเข่นฆ่า การข่มขืน และการวางเพลิงอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมีแค่เพียงกลุ่มผู้สนับสนุนทหารหัวรุนแรงเท่านั้นที่เปลี่ยนจากการใช้งานเฟซบุ๊กมายังเว็บไซต์ VK แต่เฟซบุ๊กยังคงเป็นสื่อสังคมออนไลน์หลักที่มีผู้นิยมใช้งานมากที่สุดในพม่า
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีบัญชีเฟซบุ๊ก 2 บัญชี และมีผู้ติดตาม 1.3 ล้านคน และ 2.8 ล้านคน ตามลำดับ มักใช้หน้าเพจเป็นช่องทางหาเสียงสนับสนุนการรณรงค์ของทหาร และโพสต์ต่างๆ บนหน้าเพจมักกล่าวถึงชาวโรฮิงญาด้วยคำว่า “เบงกาลี” และปฏิเสธการกระทำทารุณระหว่างการปราบปราม.