MGR ออนไลน์ -- การประกวดมิสเวียดนาม 2018 ดำเนินมาเป็นเวลา 6 เดือนเต็ม ได้เปิดฉากลงช่วงกลางดึกวันอาทิตย์ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อินดอร์สเตเดียม สนามกีฬาแห่งชาติฟุเถาะ (Nhà Thi Đấu Phú Thọ) นครโฮจิมินห์ คณะกรรมการได้ร่วมใจกันเทคะแนนให้แก่สาวใสวัย 18 ปี ที่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หมาดๆ ให้เป็นเจ้าของมงกุฎเพชรกับคฑาทอง สำหรับการประกวดความงามระดับชาติที่มีเอกลักษณยิ่ง และ จัดขึ้นเพียง 2 ปีต่อครั้งเท่านั้น
เจิ่น เตี่ยว วี (Trần Tiểu Vy) สาวสวยจาก จ.กว่างนาม (Quảng Nam) สูง 174 ซม. กับสัดส่วน 84-63-90 (33/24.6/35.5) และ น้ำหนัก 55 กิโลกรัม เป็นสาวงามอายุน้อยที่สุดที่ผ่านเข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้าย -- เธอมีรูปหน้าสะสวยสดุดตามาตั้งแต่วันแรกๆ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มตัวเต็งอันดับต้นๆ ในสายตาของสื่อมวลชนสำนักต่างๆเท่านั้นเอง
เตี่ยว วี เป็นสาว ตจว. -- สาวงามต่างจังหวัดอีกคนหนึ่ง ที่สามารถแทรกตัวเข้ามาคั่นกลาง ระหว่างสาวชาวเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวชาวฮานอย กับ สาวชาวไต้ไซง่อน ที่ผลัดกันครองมงกุฎมิสเวียดนาติดต่อกันมาตลอดหลายปีมานี้่
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง ซึ่งเป็นเจ้างานจัดการประกวดความงามระดับชาติ มิสเวียดนามปีนี้ใช้เวลาประกวดยาวนานที่สุด สาวๆ เดินทางไกลกันมากที่สุด และ ตั้งแต่สาวเหนือกับสาวใต้ทั้ง 43 ชีวิตไปรวมตัวกัน เป็นกองประกวดใหญ่ จนถึงคืนสุดท้ายก็เป็นเวลา 3 เดือนพอดี และ คณะกรรมการกล่าวว่าการ ตัดสินปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เตี่ยนฟองรายงานว่า ไต้ฝุ่นมังคุดที่เคลื่อนเข้าใกล้เวียดนามทำให้เกิดฝนตกหนักในโฮจิมินห์ตลอดทั้งยามบ่าย สร้างความยากลำบากให้แก่การเตรียมงานไม่น้อย และ หลายฝ่ายต่างเป็นกังวลใจว่าผู้ชมจะไม่สามารถเดินทางไปยังอินดอร์สเตเดียมแห่งนั้นได้ แต่พอตกบ่ายๆค่ำ ในก็หยุดตกอย่างกระทันหัน และ หยุดสนิท
.
.
การประกวดคืนที่ผ่านมา มีกิจกรรมบนเวทีมากมาย มีบรรดานักร้องนักแสดงยอดนิยมเข้าร่วมอย่างคับคั่ง และ บรรดาสาวสวยได้ประชันขันแข่งกันในหลายเนื้อหา ด้วยเครื่องแต่งกายหลายชุด ทั้งอ๋าวหย่ายชุดประจำชาติ ชุดแฟชั่น และชุดราตรียาวกับชุดว่ายน้ำทูพีซ ในรอบ 25 คน -- ซึ่งถือเป็นไฮไล้ท์ของงาน
กองประกวดได้ทยอยคัดเลือกสาวงามจาก 43 ให้เหลือ 25 จากนั้นคัดลงอีก 10 เหลือ 15 และ เหลือ 5 คนตามลำดับ
ในสายตาของผู้ชมนั้น เตี่ยว วี สามารถตอบคำถามได้เฉียบคมที่สุดในบรรดา 5 สาวที่สวยที่สุดของค่ำคืน -- เหวียน ถวี่ เวิน ผู้เป็นพิธีกร ซึ่งเป็นอดีตรองมิสเวียดนามเวิลดิ์เมื่อหลายปีก่อน ให้เธอหยิบกระดาษคำถาม และอ่านเสียงดัง โดยใจความว่า -- สมมติว่าคุณอยู่ในสังคมอีก 100 ปีข้างหน้า คุณมีอะไรอยากจะบอกคนรุ่นนั้นบ้าง -- สาวสวยตอบว่า "หนูจะบอกให้ทุกคนเชื่อมั่นในความใฝ่ฝัน และใช้ความรู้ความสามารถทำให้กลายเป็นความจริงขึ้นมา เพื่อจะช่วยเหลือผู้คนในสังคมได้ และช่วยกันจรรโลงสังคมให้พัฒนาต่อไป"
การตอบคำถามของมิสเวียดนามนคนล่าสุด ตะกุกตะกักอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ท้ายที่สุดก็จบลงพร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราวจากผู้ชมข้างล่าง
โด๋ หมี ลีง (Đỗ Mỹ Linh) มิสเวียดนาม 2016 ที่กำลังจะพ้นวาระไป ได้ขึ้นสวมมงกุฎให้แก่สาวงามของชาติคนใหม่ -- ต่างไปจากเมื่อ 2 ปีก่อน ครั้งที่เธอได้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 นั้่น ผู้สวมมงกุฎให้กลับเป็นบรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์เตี่ยนฟอง มิใช่เหวียน กาว กี่ ยเวือน (Nguyễn Cao Kỳ Duyên) มิสเวียดนาม 2014 เจ้าตำรับแห่งความอื้อฉาว ซึ่งถูกห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยวกับการประกวดคืนสุดท้าย มิสเวียดนาม 2016 -- จึงไม่มีโอกาสได้สวมมงกุฎให้แก่หมี ลีง
.
คืนที่ผ่านมา กี่ ยเวือน ได้ขึ้นปรากฎตัวบนเวทีอีกครั้ง ทำหน้าที่มอบรางวัลเกียรติยศ ให้แก่สาวงามที่ชนะเลิศการประกวดในรอบแฟชั่นโชว์
ใครๆ ก็บอกว่าปีนี้จัดได้ยิ่งใหญ่สวยงามสุดตระการตา มิสเวียดนามปีนี้ดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศสุดชื่นมื่น เนื่องจากเป็นโอกาสครบรอบปีที่ 30 ของเวที มีอดีตเจ้าของมงกุฎหลากหยุคหลายสมัย ไปร่วมเป็นเกียรติ ทั้งมิสเวียดนามคนแรกๆ คือ ปี 1988, 1990, 1992 และ 2010 ทุกคนได้ขึ้นปรากฏตัว ร่วมกิจกรรมต่างบนเวทีด้วย -- ที่ขาดหายไปนั้่น เกือบทั้งหมดไปอาศัยทำกิน หรือ ย้ายไปอยู่กับครอบครัวในต่างแดน นอกจากนั่้นยังมีสาวงามจากนานาประเทศอีกจำนวนหนึ่งเป็นแขกรับเชิญเช่นกันเดียวกัน
รองอันดับ 1 มิสเวียดนาม 2018 ได้แก่ บุ่ย เฟือง งา (Bùi Phương Nga) สาวชาวฮานอยวัย 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเศรษฐกิจแห่งชาติ สูง 172 ซม. สัดส่วน 84/64/92 (33/25/36) และ รองอันดับ 2 คือ เหวียน ถิ ถวี อาน (Nguyễn Thị Thúy An) สาวงามวัย 23 ปี ชาว จ.เกียนซยาง ริมทะเลอ่าวไทย นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี นครโฮจิมินห์ สูง 168 ซม. สัดส่วน 83/65/89 (32.5/25.5/35)
เจ้าของมงกุฎเพชรมิสเวียดนาม ยังได้รับรางวัลเงินสดอีก 500 ล้านด่ง (ราว 7 แสนบาท) พร้อมรางวัลอื่นๆ มูลค่าอีกเท่าตัว รองอันดับ 1 เงินรางวัล 300 ล้านด่ง และ รองอันดับ 2 ได้ 250 ล้านด่ง -- โดยมีรางวัลเป็นสิ่งของมีค่า เครื่องใช้ เครื่องสำอางค์ ตลอดจนทุนการศึกษา ที่มีมูลค่ามากมาย -- ยังมีสาวงามที่ได้รางวัลข้างเคียงอีก 9 ประเภทการประกวด/แข่งขัน
ตามกติกาของกรมศิลปการแสดง กระทรวงวัฒนรรม กีฬาและการท่องเที่ยวนั้น มิสเวียดนามจะเป็นตัวแทนไปร่วมการประกวดมิสเวิลด์ 2018 ที่เมืองซันหยาของจีน ส่วนรองอันดับ 1 จะไปขึ้นเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งปีนี้จัดในพม่า และ รองอันดับ 2 จะไปเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ในกรุงโตเกียว
.
เป็นที่ทราบกันทั่วไป มิสเวียดนามมีกติกาเคร่งครัดมาก -- กำหนดให้ผู้เข้าประกวดจะต้องเป็นหญิงสาวที่เกิดในแผ่นดินแม่เท่านั้น เป็นการปิดประตูกันนางงาม "อิมปอร์ต" กับพวกเดินสายประกวดอาชีพ นอกจากนั้นยังจะต้องเป็นลูกหลานของชาวเวียดนาม 100% ปิดประตูกันบรรดาสาวลูกครึ่งลูกเสี้ยว
คุณสมบัติที่ดีเด่นยิ่งกว่านั้นก็คือ จะต้องไม่เคยทำศัลยกรรมเสริมแต่งส่วนใดของร่างกลาย กระทั่งปลายจมูก หรือ แม้กระทั่งทำฟันหรือดัดฟัน โดยไม่มีเหตุที่เกี่ยวกับความจำเป็นด้านสุขภาพ -- จึงทำให้มิสเวียดนามเป็นเวทีของสาวสวยที่สวยตามวัย และตามธรรมชาติ ปราศจากซิลิโคน
อย่างไรก็ตามผู้คว่ำหวอดในวงการบางคนกล่าวว่า กองประกวดมิสเวียดนามมีตัวเลือกที่ปักธงเอาไว้ล่วงหน้าชัดเจน นั่นก็คือจะให้โอกาสสาวหน้าใหม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยประกวดประชันขันแข่งเวทีแห่งใดมาก่อน เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ตำแหน่งมิสเวียดนามมีความหมายสำหรับพวกเธอมากแค่ไหน หลังจากเวลาผ่านไป 2 ปี
แนวโน้มนี้เห็นได้ชัดจากการประกวดปี 2014 และ 2016 ที่ได้สาววัยรุ่นที่เพื่งเรียนจบ ม.ปลาย -- ปีนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นยคิวของเจิ่น เตี่ยว วี ทั้งๆ ที่ "ตัวเก็ง" จริงๆ ในสายตาของทั่วทั้งสังคมตั้งแต่วันแรกๆนั้น เป็นสาวชาวเมืองหลวงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทั้งดารานักแสดงและนางแบบที่มีชื่อเสียง พี่สาวทั้งสองของเธอก็ล้วนเป็นดารานักแสดงและนางแบบแฟชั่นเช่นเดียวกัน
แต่ปรากฎว่า สาวสวย "เต็งหนึ่ง" ของปีนี้ ตกไปตั้งแต่รอบแรก -- รอบคัดเลือกตัวแทนของสาวชาวเหนือ -- ซึ่งทำให้สังคมออนไลน์เวียดนามโวยกันลั่นประเทศ.