MGR ออนไลน์ -- อดีตนายทหารยศนายพลเอกจำนวน 3 รวมทั้ง พล.อ.พล สะเรือน (Pol Saroeun) อดีตผู้บัญชาการกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา ได้รับแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโส พร้อมกับอดีตรองผู้บัญชาการกองทัพอีก 2 คน ทั้งนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในกิจการพิเศษต่างๆ ตามที่รัฐบาลมอบหมาย
ทั้งนี้เป็นการ "โปรโมต" ที่ถูกมองเป็นการผ่องถ่ายนายทหารรุ่นเก่าออกจากกองทัพ เปิดทางให้แก่นายทหารรุ่นใหม่ ซึ่งรวมทั้ง พล.อ.ฮุน มาเน็ต บุตรชายคนโตของนายกรัฐมนตรีเอง -- ก่อตัวขึ้นเป็นเสาค้ำบัลลังก์ชุดใหม่ของผู้นำ ที่อยู่ในอำนาจติดต่อกันมาเป็นเวลา 34 ปีโดยไม่ขาดช่วง
อดีตนายทหารระดับสูงอีก 2 นายที่ได้รับแต่งตั้งพร้อมกัน ได้แก่ พล.อ.กุนกิม (Hun Kim) อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพและเสนาธิการใหญ่กองทัพประชาชนกัมพูชา กับ พล.อ.มาศ สุภา (Meas Sopha) อดีตรองผู้บัญชาการอีกคนหนึ่ง
สาธารณชนทั่วไปทราบมาล่วงหน้าผ่านสื่อต่างๆ เป็นเวลาแรมเดือน เกี่ยวกับการโยกเก้าอี้ผู้นำระดับสูงของกองทัพ แต่ไม่มีใครทราบว่า จะเกษียณออกจากราชการไปเลยหรือไปรับตำแหน่งอื่น
การโยกย้ายนายทหารระดับสูงของกองทัพไปร่วมอยู่ในคณะรัฐมนตรีนั้น เคยมีให้เห็นมาก่อนในกรณีของ พล.อ.แก กิมยาน (Ke Kim Yan) อดีตผู้บัญชาการกองทัพที่อยู่ในตำแหน่งมายาวนาน ตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมือง ถูกโยกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา ไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดเแห่งชาติ -- ครั้งนั้นเป็นการเปิดทางให้แก่ พล.อ.พล สะเรือน
.
พล.อ.สะเรือน ได้พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้ง และ พล.อ.เตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมได้ขอแต่งตั้ง พล.อ.เซา สุขะ (Sao Sokha) รองผู้บัญชาการกองทัพคนที่ 2 ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทน -- นี่คือนายทหารอีกคนหนึ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก เคยเป็นผู้ใกล้ชิด ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหลกันมา ตั้งแต่ยังเป็นทหารชั้นผู้น้อย เมื่อครั้งฮุนเซนนำกำลังพลจากเวียดนาม กลับประเทศเพื่อขับไล่ระบอบเขมรแดงโปลโป้ท-เอียงสารีกับเคียว สมพร -- สื่อต่างๆ มองว่า พล.อ.สุขะ อาจเป็นผู้สืบทอดตำแหนงผู้บัญชากา่รกองทัพ
กรณี พล.อ.กุน กิม ก็เช่นเดียวกัน -- เสนาธิการกองทัพ ซึ่งเป็นเบอร์ 2 แห่งกองทัพราชอาณาจักรกัมพูชา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือน ก.พ. "ด้วยเหตุผลส่วนตัว" แต่ทราบกันทั่วไปว่า เป็นการลาออกเพื่อเปิดทางให้ พล.ท.ฮุน มาเนต รองผู้บัญชาการกองทัพ และ ผู้บัญชาการทหารบก -- สื่อในกัมพูชารายงานว่า พล.ท.มาเนต เข้ารับตำแหน่ง "ผู้ปฏิบัติหน้าที่เสนาธิการกองทัพ" (Acting Joint Chief of Staff) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เพราะฉะนั้นอีกไม่ช้าไม่นาน จะได้เห็นรัฐบาลชุดใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีติดยศนายพลเอก "นายพลสี่ดาว"
อย่างไรก็ตาม พล.อ.กุนกิม ยังคงปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสมาคมทหารผ่านศึกแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำให้เข้าใจว่าการแต่งตั้งขึ้นตำแหน่งรองนายกฯ ก็เพื่อทำหน้าที่ดูแลทหารผ่านศึกต่อไป -- หลังสงครามกลางเมือง 10 ปี กัมพูชามีทหารพิการหรือทุพลภาพต้องดูแล จำนวนหลายหมื่นนาย
.
สำหรับ พล.อ.สุภา เรียนสำเร็จปริญญาเอกวิทยาศาสตร์การทหาร จากสถาบันทหารของกองทัพประชาชนเวียดนาม -- มีบทบาทอย่างสำคัญในการค้ำจุนบัลลังก์ของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนมาตั้งแต่ต้น ผลงานสำคัญคือ เป็นผู้นำกำลังเข้ากดดันให้กองกำลังหลักของเขมรแดงฝ่ายโปลโป้ท (Pol Pot) ที่ จ.ไพลิน ยอมเจรจาสงบศึก หลังการเลือกตั้งปี 2536
ในปี 2541 "พล.ต.มาศ สุภา" ในขณะนั้นนำกำลังเข้าปะทะและกดดันฝ่ายเขมรแดงแตกแถวกลุ่มสุดท้ายที่ อ.อันลองแวง จ.อุดรมีชัย จนในที่สุดก็สามารถจับกุมตาม๊อค (Ta Mok) ผู้นำกลุ่มที่ยึดอำนาจการนำจากกลุ่มโปลโป้ท
ปี 2539 เมื่อฮุนเซนซึ่งขณะนั้นเป็น "นายกรัฐมนตรีคนที่ 2" ทำรัฐประหารยึดอำนาจจาก "กรมหลวงนโรดมรณฤทธิ์" นายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ในขณะนั้น พล.ต.สุภา เป็นผู้นำกำลังตีโต้ กองกำลังของ พล.อ.แญ็ก บุนชัย (Nhek Bounchay) รัฐมนตรีกลาโหมคนที่ 1 ของฝ่ายเจ้ารณฤทธิ์ ให้ถอยร่นไปจนถึงชายแดนไทย -- นับเป็นผลงานที่โดดเด่น
รัฐสภากัมพูชาชุดใหม่เปิดประชุมอีกครั้งหนึ่งในวันพฤหัสบดี และ ได้พิจารณาลงมติผ่านร่างกฎหมาย กับ พระบรมราชโองการเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีรวม 10 คน รัฐมนตรีอาวุโส 17 คน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทั่วไปอีก 29 คน
ทั้งหมดได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระนโรดมบรมนาถสีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชาตอนบ่ายวันเดียวกัน ที่พระราชวังจตุมุข ถวายสัตย์ปฏิญาณ และ เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ.