xs
xsm
sm
md
lg

"มส.เวียงจันทน์" ห้าม นร.พกสมาร์ทโฟนไปโรงเรียน พบทำผลการเรียนแย่ลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<br><FONT color=#00003>ภาพอินโฟกราฟิกที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ของชาวลาวตลอดวันจันทน์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดปีการศึกษาใหม่อย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นกิจกรรมภายใน กับผู้อำนวยการ มส.เวียงจันทน์ ผู้ประกาศใช้มาตรการเด็ด -- และ สมาร์ทโฟนที่เป็นตัวการทำให้ผลการเรียนของเด็กแย่ลง.</a>

MGR ออนไลน์ -- โรงเรียนแห่งต่างๆใน สปป.ลาวทั่วประเทศ เกือบทั้งหมดได้เปิดปีการศึกษาใหม่ในวันจันทร์ 3 ก.ย.นี้ แต่มีเพียงแห่งเดียว คือ โรงเรียนมัธยมศึกษาสมบูรณ์เวียงจันทน์ ที่ปีนี้ประกาศห้ามนักเรียนทุกระดับชั้น ตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึง ม.7 พกโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไปโรงเรียน อนุญาตให้เพียงโทรศัพท์ธรรมดาสำหรับการโทรเข้า-โทรออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ริมถนนล้านช้างในย่านใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ ยังออกมาตรการที่เข้มงวดกวดขันอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งห้ามนักเรียนขับรถไปเรียนด้วย

เรื่องนี้ตกเป็นข่าวสะพัดในโลกออนไลน์ตลอดวันที่ผ่านมา อ้างการสัมภาษณ์นางเวียงสุวัน พะไซสมบัด ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาสมบูรณ์เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเก่าแก่ และ มีชื่อเสียงเรื่องการเรียนการสอนมากที่สุด และได้รับความนิยมจากพ่อแม่ผู้ปกครองมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของลาว

"มส.เวียงจันทน์" เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาเพียงแห่งเดียว ที่ประกาศใช้มาตรการห้ามนักเรียนนำสมาร์ทโฟนไปโรงเรียนด้วย หรือ อย่างน้อยที่สุดก็เท่าที่ตกเป็นข่าวในเรื่องนี้ -- ในโอกาสเปิดปีการศึกษาใหม่ 2561-2562

ผอ.โรงเรียนแห่งนี้กล่าวว่าจากการประเมินในปีการศึกษาที่ผ่านมา พบว่ามีนักเรียนใช้สมาร์ทโฟนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การเรียนในบางวิชาย่ำแย่ลง ไม่บรรลุระดับที่คาดหมาย ปีการศึกษานี้คณะกรรมการของโรงเรียนจะเข้มงวดกวดขัน หากพบก็จะเชิญผู้ปกครองไปหารือ พร้อมทั้งให้นักเรียนกล่าวปฏิญาณ จะปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเข้มงวด

มส.เวียงจันทน์ มีโทรศัพท์ตั้งโต๊ะให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับผู้ปกครอง ซึ่งนักเรียนทุกคนสามารถโทรออกได้โดยไม่เสียค่าบริการใดๆ หรือ หากนักเรียนต้องการจะค้นคว้าหาข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการเรียน ก็มีห้องคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ให้บริการอินเตอร์เน็ตระหว่ง 07.30-16.00 น.ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเช่นกัน

โรงเรียนยังมีมาตรการอื่นๆอีก -- ปีการศึกษาใหม่นี้จะไม่อนุญาติให้นักเรียนกลับบ้านในช่วงเวลาพักเที่ยงวัน หลังจากพบว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งกลับไปเรียนไม่ทันในภาคบ่าย-ค่ำ โดยจะให้นำอาหารไปรับประทานที่โรงเรียนโรงเรียนได้จัดน้ำดื่มสะอาด รวมทั้งน้ำตู้เย็นไว้บริการอย่างเพียงพอ โรงเรียนจะอนุญาตให้นักเรียนออกจากโรงเรียนได้ โดยออกบัตรอนุญาตให้สำหรับการเข้าออกแต่ละครั้ง

นอกจากนั้นจะไม่อนุญาตให้นักเรียน นำ "รถใหญ่" ไปโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหารจราจรแออัด ยกเว้นในกรณีจำเป็นเช่นผู้ปกครองไปต่างจังหวัด หรือเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สามารถไปรับส่งได้เท่านั้น
.
<br><FONT color=#00003>ประตูใหญ่กับอาคารหลังเก่าของ มส.เวียงจันทน์ ริมถนนล้างช้างติดอนุสาวรีย์ประตูชัยในวันสุดสัปดาห์ที่ไม่มีนักเรียนพลุกพล่าน โรงเรียนแห่งนี้่มีประวัติความเป็นมากว่า 90 ปี ตั้งแต่ยุคฝรั่งเศส -- ในภาพเดือน ก.ย.2552 หรือ 9 ปีที่แล้ว. -- โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร. </a>
มัธยมศึกษาสมบูรณ์เวียงจันทน์มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 100 ปี ก่อตั้งเมื่อปี 1925 (พ.ศ.2468) เปิดสอนระดับ ม.ต้น มีเพียง 4 ห้องเรียนเท่านั้น และ เป็นโรงเรียนกินนอนอยู่ประจำเพียงแห่งเดียวตลอดมา จนถึงปี 1955 ได้ตกอยู่ใต้การบริหารโดยตรงของฝรั่งเศส ซึ่งในปีต่อมาได้มีอาคารใหม่อีกหลังหนึ่ง กลายเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่รู้จักกันในชื่อ "Lycee de Vientiane" ตามแบบฝรั่งเศส

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2518 กระทรวงศึกษาธิการได้บริหารโรงเรียนแห่งนี้โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง และ ได้ชื่อใหม่เป็น "โรงเรียนอุดมเวียงจันทน์" ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่ามีทั้งระดับ ม.ต้นและ ม.ปลาย อีกหลายปีต่อมาได้กลายมาเป็น "มัธยมศึกษาสมบูรณ์" เช่นเดียวกับโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งอื่นๆ ที่เปิดการเรียนการสอนทั้งสองระดับ ในทั่วประเทศ

จากจำนวนนักเรียนที่มีอยู่เพียงประมาณ 120 คนในวันเริ่มก่อตั้ง ปัจจุบันที่นี่มีนักเรียนทุกระดับชั้นเกือบ 5,000 คน

วันจันทน์ที่ผ่านมา ก็เช่นเดียวกันกับช่วงวันที่ 1, 2 หรือ 3 ก.ย.ของทุกปี ทางการนครเวียงจันทน์ได้จัดพิธีเปิดปีการศึกษาใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกับโรงเรียนในแขวงต่างๆ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งสำหรับเยาวชนและครูอาจารย์ทั่วไป -- พิธีปีนี้จั้ดขึ้นที่โรงเรียนมิตรภาพนครเวียงจันทน์-นครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมปลาย ที่นิยมเรียกกันง่ายๆ จนติดปากในชื่อ "มป.สีโคด (ตะบอง)"

ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีในนามของรัฐบาล ได้ออกปราศรัยผ่านทางวิทยุและโทรทัศน์ของทางการ ย้ำถึงยุทธศาสต์การศึกษาของประเทศ พร้อมอำนวยพรให้ทุกฝ่ายประสบความสำเร็จ

ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการนั้น ปัจจุบันทั่วเมืองหลวงของลาวมีโรงเรียนอนุบาลกับเนิร์สเซอรีสำหรับเด็กอ่อนรวม 363 แห่ง มีโรงเรียนประถมศึกษาสมบูรณ์ 525 แห่ง โรงเรียนมัธยมต้นกับมัธยมปลายรวมกัน 170 แห่ง -- ปีนี้จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง จำนวนโรงเรียนระดับต่างๆ กับจำนวนครูอาจารย์ก็เพิ่มขึ้น จากปีการศึกษาที่แล้ว.


กำลังโหลดความคิดเห็น