เอเอฟพี - ฝนตกหนักในช่วงฤดูมรสุม ทำให้เขื่อนทางภาคกลางของพม่าเกิดทะลักล้นในเช้าวันนี้ (29) มวลน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านนับ 100 แห่ง และทำให้ทางหลวงสายสำคัญของประเทศใช้การไม่ได้ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาล
ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยไปพักตามค่ายพักพิงชั่วคราว
โครงสร้างของทางน้ำล้นของเขื่อนสวาชอง (Swar Chaung) ที่ควบคุมการปล่อยน้ำจากเขื่อนเกิดพังเสียหายเนื่องจากฝนตกหนักในเขตพะโค มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้าสู่เขตพื้นที่ราบชนบท ขณะที่ประชาชนเร่งหลบหนีออกจากบ้านเรือนของตน พร้อมหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้
ความแรงของน้ำยังทำให้บางส่วนของสะพานของทางหลวงสายย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางหลวงสายนี้เป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ในการคมนาคมระหว่างสองเมืองใหญ่ของพม่า
“เราไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนผู้ประสบภัย แต่น้ำเข้าท่วมหลายหมู่บ้านที่มีประชาชนมากกว่า 50,000 คน อาศัยอยู่” เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสวัสดิการสังคม กล่าว และเสริมว่า มีประชาชนรวมทั้งสิ้น 12,000 ครัวเรือน ใน 100 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาประเทศเรียกร้องให้เผชิญต่อกระบวนการยุติธรรม หลังสหประชาชาติออกรายงานในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญา ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างรวดเร็ว
“เราต้องทำงานร่วมกัน ทางน้ำล้นไม่สามารถควบคุมได้ในตอนนี้ และน้ำจะยังไม่หยุดไหล” พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กล่าวกับสื่อท้องถิ่น
นักข่าวของเอเอฟพีรายงานว่า เห็นขบวนรถบรรทุกทหารบรรทุกเรือมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ค่ายพักพิงชั่วคราวถูกตั้งขึ้น และราษฎรจำนวนหนึ่งเข้าพักอาศัยหลบภัยตามวัดวาอารามต่างๆ.