xs
xsm
sm
md
lg

"ฮุนเซน" ปล่อยฝ่ายค้านอีก 13 คน พร้อมนักก่อหวอดต้านรัฐบาลอีก 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ได้รับอิสรภาพอีกครั้งกลางดึกที่ผ่านมา หลังกินข้าวแดงมา 2 ปีเศษ แต่จะต้องไม่ทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ตลอด 5 ปีข้างหน้า อันเป็นโทษตามกฎหมาย ไม่งั้นได้กลับไปนอนคุกอีกแน่ๆ.   </a>

MGR ออนไลน์ -- อดีตผู้แทนราษฎรพรรคกู้ชาติกัมพูชาอีก 13 คน พร้อมด้วยนักชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลระดับแนวหน้า 1 คน เดินทางออกจากเรือนจำกลางกรุงพนมเปญกลางดึกวันจันทร์ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังได้รับอิสรภาพจากการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ขณะที่ฝ่ายค้านคนสำคัญเรียกร้องให้รัฐบาลนิรโทษกรรมให้แก่บรรดาอดีต สส.ของพรรคอีกจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางออกนอกประเทศช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

นายเหมา สุวรรณรา (Mao Sovannara) วัย 46 ปี ซึ่งเป็นผู้นำการประท้วงที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในกัมพูชา ได้ยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนสำนึกผิดที่ได้ก่อการชุมนุมประท้วง ทำให้เกิดความปั่นป่วนในสังคมที่นำไปสู่การจับกุมเมื่อกว่า 2 ปีก่อน ทั้งยังประกาศยอมรับในชัยชนะของพรรคประชาชนกัมพูชา ในการเลือกตั้งวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่พรรคฝ่ายค้านใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย

นายสุวรรณรายังได้ให้คำมั่น จะไม่ทำการประท้วงใดๆ อีก และจะวางมือจากองค์กรทางการเมือง ไม่เข้าร่วมกับแนวร่วมใดๆ ทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ อีก จะเคารพกฎหมายและเข้าร่วมกับสมเด็จเตโชฮุนเซน ในการพัฒนาประเทศที่ยากจนให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งนี้เป็นรายงานของเว็บไซต์ข่าวภาษาเขมรสวิฟต์นิวส์

ขณะเดียวกันอดีต สส.ฝ่ายค้านทั้ง 13 คนได้ร่วมกันลงชื่อในหนังสืออีกฉบับหนึ่งยื่นถึงฮุนเซน ยอมรับการที่พรรครัฐบาลได้ครองที่นั่งทั้งหมด 125/125 ที่นั่งในสภาพผู้แทนฯ (หรือ "รัฐสภา" ในระบบของกัมพูชา) ทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลให้อภัยโทษอดีต สส.ฝ่ายค้านอีกจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปอาศัยลี้ภัยในต่างแดนในขณะนี้ ซึ่งรวมทั้งนางมู สุคัว (Mu Suchua) อดีตรองหัวหน้าพรรค

ทั้ง 14 คนคาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่เจ้าหน้าที่ศาลบอกผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการปล่อยตัวก็เนื่องจากมีผู้ต้องขังได้รับอภัยโทษหลายคน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จนในที่สุดทุกคนได้ออกจากเรือนจำเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน โดยมี่้เจ้าหน้าที่เรือนจำกับเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร นำแต่ละคนส่งจนถึงบ้านโดยปลอดภัย
.


อดีต สส.ฝ่ายค้านทั้ง 13 คนอายุระหว่าง 27-51 ปี เป็นเพศชายทั้งหมด ถูกจับกุมในเดือน ก.ค.2557 ระหว่างการชุมนุมประท้วงที่ลุกลามไปเป็นการจลาจลในเมืองหลวง และ ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ทรยศต่อชาติ เกี่ยวข้องกับแผนการสมคบกับต่างชาติเพื่อล้มล้างรัฐบาล ทั้งหมดถูกคุมขังตั้งแต่นั้นมา ก่อนจะถูกศาลชั้นต้นพิพากษาในเดือน มิ.ย.2558 ให้จำคุกคนละตั้งแต่ 3-7 ปีตามฐานความผิด

ต่อมาในเดือน เม.ย.ปีนี้ ศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำพิพากษายืนคำพิพากษาของศาลชั้นต้น -- ทั้งหมดกำลังต่อสู้คดีในชั้นฏีกา แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเสียก่อน

ไม่กี่วันมานี้ นรม.กัมพูชา ได้ดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ฝ่ายตรงข้ามหลายคน โดยเมื่อวันที่ 25 ส.ค.นายอูม ซัม อาน (Oum Sam An) อดีต สส.พรรค CNRP ได้กลายเป็นอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านคนแรกที่ได้รับอิสรภาพ ก่อนหน้านั้นเพียงข้ามวันคือ 23 ส.ค. นักการเมืองอดีตนักการเมืองอดีตพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคหนึ่ง ก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นางสาวเทบ วันนี (Tep Vanni) นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ต่อต้านการขับไล่ประชาชนออกจากที่อยู่อาศัยในเขตบึงกาก บึงน้ำใหญ่แห่งหนึ่งในพนมเปญ เพื่อให้นักลงทุนเอกชนเอกชนสัมปทาน ก็ได้รับการปล่อยตัว และ ต่อมา 21 ส.ค. ฮุนเซนก็ขออภัยโทษให้แก่ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมรอีก 2 คน -- ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องของนักการทูตอังกฤษกับสหภาพยุโรป
.
<br><FONT color=#00003>เมื่อครั้งถูกนำตัวไปฟ้องต่อศาล ก.ค.2557 และ ต่อมาศาลตัดสินจำคุกคนละ 3-7 ปี ฐานเป็นผู้ทรยศต่อชาติ.</a>
ฮุนเซนประกาศระหว่างปราศัยต่อคนงานราว 17,000 ใน จ.กันดาลเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ระบุว่า กำลังพิจารณาขอนิรโทษกรรมให้แก่อดีต สส.ฝ่ายค้านอย่างน้อย 12 คน เนื่องจากโอกาสเทศกาลประชุมแบน เทศการทางน้ำ ฯลฯ เช่นที่เคยปฏิบัติกันมา ทั้งยืนกรานแข็งขันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการกดดันของประชาคมระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นรม.กัมพูชา กำลังจะเดินทางไปร่วมการประชุมใหญ่ประจำปีขององค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ค ในอีกไม่นานนี้ และ จะได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมด้วย

ทางการกระกาศวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สมเด็จพระนโรดมบรมนาถสีหมุนี องค์พระประมุข จะเสด็จพระราชดำเนินทรงทำพิธีเปิดสมัยประชุมแรกของรัฐสภาชุดใหม่ในวันที่ 5 ก.ย.ศกนี้ และการจัดตั้งรัฐบาลก็จะติดตามมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากนั้่นฮุนเซน -- นายกรัฐมนตรีคนใหม่ -- มีกำหนดการเดินทางเยือนต่างประเทศมากมาย รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศสำคัญๆหลายครั้งอีกด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขออภัยโทษแก่ฝ่ายตรงข้ามที่เกิดขึ้นถี่ๆ ในช่วงนี้เป็นความพยายามแก้ไขภาพพจน์อันย่ำแย่ หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น และจะอยู่ในอำนาจต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนั้่นปีนี้ยังเป็นปีที่ 34 ที่ผู้นำอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันมาโดยไม่ขาดช่วง.


กำลังโหลดความคิดเห็น