รอยเตอร์ - กระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนาม รายงานว่า ในระหว่างปี 2555-2560 มีชาวเวียดนามตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ มากกว่า 3,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็ก และหลายคนถูกพาเข้าไปยังประเทศจีน
ผู้ก่อเหตุค้ามนุษย์จะหาเหยื่อตามตลาด หรือโรงเรียน และใช้เฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันส่งข้อความภาษาเวียดนามเป็นเครื่องมือทำความรู้จักเพื่อเป็นเพื่อนกับเหยื่อ ก่อนขายเหยื่อให้แก่ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร หรือลักลอบไปต่างประเทศ และ 75% ของคดีเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ามนุษย์ข้ามแดนไปจีน กระทรวงระบุในคำแถลง
“การค้ามนุษย์เกิดขึ้นทั่วประเทศ ไม่เพียงเฉพาะพื้นที่ห่างไกล หรือบนเขาเท่านั้น” เล ถิ งา หัวหน้าฝ่ายยุติธรรมประจำรัฐสภา กล่าว
รัฐสภาเวียดนามกำลังทบทวนกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์ ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายเผชิญต่อความยากลำบาก และมีข้อบกพร่อง เล ถิ งา ได้เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติเสนอแนวทางที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ระบุว่า ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนในคดีค้ามนุษย์ 1,021 คดี และจับกุมผู้กระทำผิด 2,035 คน ในช่วงระหว่างปี 2555-2560 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีคนตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์รวมทั้งหมด 3,090 คน ซึ่ง 90% เป็นผู้หญิง และเด็กจากชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และบนภูเขา
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ระบุว่า ประเทศควรลดปัญหาความยากจน ขจัดความไม่รู้หนังสือ จัดหาการฝึกอบรมวิชาชีพ และสร้างงานให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์.