เอเอฟพี - ผู้พิพากษาพม่าระบุว่า คำพิพากษาตัดสินคดีของ 2 นักข่าวรอยเตอร์ ที่ถูกกล่าวหาว่า ทำความลับของรัฐรั่วไหลนั้นจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า คดีที่นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศถึงการเสื่อมถอยของเสรีภาพสื่อ
วา โลน อายุ 32 ปี และกอ โซ อู อายุ 28 ปี อาจถูกจำคุกนาน 14 ปี หากศาลตัดสินว่าละเมิดกฎหมายความลับราชการ ข้อกล่าวหาที่หนึ่งใน 2 นักข่าวระบุว่า “ไม่มีมูล” หลังแถลงปิดคดีวันนี้ (20)
พวกเขาถูกควบคุมตัวที่เรือนจำอินเส่งตั้งแต่เดือน ธ.ค. หลังพบหารือกับนายตำรวจช่วงมื้อค่ำในนครย่างกุ้ง เวลานั้นทั้งสองกำลังทำงานสืบสวนเกี่ยวกับเหตุสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ และตำรวจได้กล่าวหาว่าพวกเขามีเอกสารลับที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการความมั่นคงในรัฐ แต่ฝ่ายนักข่าวระบุว่า พวกเขาถูกลวงให้ติดกับและถูกจับกุม
ผู้พิพากษาในคดีกล่าวว่า คำตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.
“เราไม่ผิดและสิ่งที่ถูกกล่าวหาจากฝ่ายโจทก์นั้นไม่มีมูล” วา โลน กล่าวกับนักข่าวหลังออกจากศาล
คดีความนี้จุดกระแสความวิตกกังวลไปทั่วโลกเกี่ยวกับการเสื่อมถอยของเสรีภาพสื่อภายใต้การปกครองของนางอองซานซูจี ที่เข้าบริหารประเทศในปี 2559
วา โลน และกอ โซ อู กำลังตรวจสอบเหตุการณ์การสังหารชาวโรฮิงญา 10 คนในรัฐยะไข่ ที่เกิดขึ้นในเดือน ก.ย. ไม่นานหลังทหารดำเนินการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธที่ขยายวงกว้างจนกลายเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ และสหประชาชาติเรียกว่า “การกวาดล้างชาติพันธุ์”
ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาราว 700,000 คน อพยพไปบังกลาเทศ ที่พวกเขาได้กล่าวหาว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าก่อเหตุข่มขืน เข่นฆ่า และวางเพลิงในปฏิบัติการล้างบางที่ทำให้หมู่บ้านหลายร้อยแห่งถูกเผาราบ
ทางการพม่าปฏิเสธว่ามุ่งเป้าโจมตีพลเรือน แต่ทหารยอมรับว่าเหตุสังหารในเดือน ก.ย. ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านอินดิน และตัดสินลงโทษทหาร 7 นาย
อัยการกอ มิน อ่อง กล่าวต่อศาลในการกล่าวแถลงสุดท้ายว่า วา โลน และกอ โซ อู มีข้อมูลที่อ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติ
“หากเอกสารที่พบในมือนักข่าวกระจายออกไปยังผู้ก่อการร้าย มันจะง่ายขึ้นสำหรับผู้ก่อการร้ายที่จะโจมตีอีก” อัยการ กล่าว
แต่คำให้การของพยานตำรวจ ระบุว่า เขาได้รับคำสั่งให้ช่วยวางกับดักจับกุม และนักข่าวได้กล่าวต่อศาลว่า พวกเขาได้รับเอกสารจากการพบกับตำรวจและถูกจับกุมอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น นอกจากนั้น ยังถูกคลุมศีรษะและอดนอนระหว่างสอบปากคำ
ฝ่ายจำเลยได้เน้นย้ำถึงคำให้การของตำรวจเกี่ยวกับการจัดฉากและแย้งว่าเอกสารที่นักข่าวได้รับเคยถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของรัฐแล้ว
การพิจารณาคดีได้ย้ำถึงเสรีภาพในการแสดงความเห็นในประเทศที่การรายงานวิกฤตโรฮิงญา และปฏิบัติการของทหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก
“การพิจารณาคดีในวันจันทร์หน้า ศาลจะให้คำตอบเกี่ยวกับเสรีภาพของสื่อและหลักนิติธรรม” กอ โซ อู กล่าวกับนักข่าวหลังพิจารณาเสร็จสิ้น.